เที่ยวไทย

วันนี้คุณ SandyHappy จะพาเราไปรีวิวการเดินทางไปที่ จังหวัดระยอง  ไปยังทุ่งโปรงทอง ทุ่งที่เขาว่ากันว่าถ่ายภาพได้สวยงามมากที่หนึ่งเลยทีเดียว และใครที่อยากตามไปเป็นแฟนคลับของเธอคนนี้ก็สามารถเข้าไปตามฟอลโล่กันต่อได้ที่ https://www.facebook.com/sandysohappy รับรองว่าได้ข้อมูลแน่นมากอย่างแน่นอน ---------------------------------------------- สีเขียวเป็นสีที่เด่นที่สุดบนโลก ให้ความรู้สึกร่มเย็น สบายตา ผ่อนคลาย ปลอดภัย ทำให้เกิดความหวังและความสมดุล และสีเขียวขึ้นชื่อว่าเป็นสีแห่งความหวัง เพราะเมื่อสายตาของเราสัมผัสกับสีเขียวก็จะช่วยให้รู้สึกสดชื่น เพิ่มพลังใหม่ๆ ให้ชีวิต และทำให้เกิดความเชื่อมั่นอีกด้วย "ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส" ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่สำคัญแห่งหนึ่งใน จังหวัดระยอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่ เขตชุมชนบ้านแสมภู่ หมู่7 ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง เวลาเปิดให้เข้าชมคือ 6-19 น.โดยไม่เสียค่าเข้าชม มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 6,000 ไร่ โดยมีการสร้างสะพานไม้ทอดตัวเหนือป่าโกงกาง ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทุ่งโปรงทองยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้เรื่องระบบนิเวศของป่าชายเล่น เพราะระหว่างทางเดินบนสะพานไม้ เราจะได้พบกับพันธ์ไม้หลากหลายชนิด โดยมีป้ายอธิบายรายละเอียดระบบนิเวศบริเวณนั้นให้ได้ศึกษาเรียนรู้เป็นจุดๆ มีศาลาที่นั่งพักเป็นระยะตลอดการเดินทาง เดินชิลๆดูนก ชมไม้ ดูปูก้ามดาบ ปลาตีนเพลินๆไปได้ตลอดทางค่ะ โดยมีไฮไล้ท์ที่สำคัญที่สุดและเป็นจุดหมายปลายทางในการเดินก็คือ ต้นโปรง ที่ขึ้นหนาแน่นอยู่เต็มพื้นที่ มีสีเขียวปนเหลือง จนเรียกว่าเป็น ทุ่งโปรงทอง หรือหากมีเวลาก็สามารถเหมาเรือหางยาวไปดูนกประจำป่าชายเลน บริเวณปากน้ำประแสได้อีกด้วย มุมให้ถ่ายรูปมากมาย ไม่ใช่แต่เฉพาะโซนของทุ่งโปรงทองเท่านั้น ระหว่างที่เดินบนสะพานไม้ก็มีต้นไม้หลายชนิดต่างกันไป แนะนำให้เครียเมมโมรีกล้องให้พร้อม ก่อนออกเดินทาง เพราะตรงนั้นก็สวย ตรงนี้ก็สวย ทริปนี้ก็เลยเป็นทริปสำหรับถ่ายรูปเกร๋ๆ ชิคๆ ไปอีกแบบค่ะ ถ่ายรูปยังไงให้ดูฮิคๆ ชิคๆ ดูไม่ตั้งใจ ดูเป็นธรรมชาติ มาดูกันค่ะ ขอแนะนำตัวละครหลักของเรา ผู้ซึ่งจะทำให้ภาพของเราดูชิคๆฮิคๆ ขึ้นมาได้อีกระดับหนึ่งค่ะ ทริปนี้ไปด้วยกันทั้งหมด 4คน ทุกคนเป็นเพื่อนกัน ทุกคนมีกล้องถ่ายรูป และทุกคนมาเพื่อถ่ายรูปค่ะ ดังนั้นอาจมีรูปพวกเรากันเอง เยอะพอๆกับภาพวิวค่ะ ตลอดทางของสะพานไม้ จะมีต้นไม้หลากหลายประเภท เลยทำให้ทัศนียภาพที่ถ่ายมาได้ต่างกันออกไป วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวมาก สะพานไม้ และต้นไม้ วิวแถวนี้จะเป็นต้มไม้สูงที่อยู่กันห่างๆ ถ่ายอะไรอยู่ รูปที่ถ่ายมาเป็นยังไง ไม่ต้องสงสัยค่ะ ฟิลลิ่งมันอยู่ที่อยากถ่าย ไม่ได้อยู่ที่ว่าถ่ายอะไรมาได้ ฉันเห็นว่ามันสวย ฉันก็แค่อยากเก็บภาพตอนนั้นส่วนคนอื่นจะคิดว่ามันสวยด้วยมั๊ยนั้น ก็เรื่องของคนอื่นค่ะ ...
อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวแม่ฮ่องสอน สัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ณ บ้านห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย และศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ยังคงความสวยงามและบริสุทธิ์ บ้านห้วยห้อม หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา ณ อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วยความที่บ้านห้วยห้อมถูกโอบกอดด้วยขุนเขา ทำให้นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสไปเยือนที่นั่นล้วนเต็มอิ่มไปกับวิวทิวทัศน์สีเขียวสวย ๆ อย่างไม่อาจละสายตา รวมถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน ก็ล้วนมีเสน่ห์สะกดใจได้ไม่ยากเย็น เช่นเดียวกับที่เว็บไซต์ Artoftraveler.com ได้มีโอกาสลงไปสัมผัสและคลุกคลีกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน รวมถึงเรียนรู้กระบวนการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน อันเป็นสิ่งที่ "พ่อหลวง รัชกาลที่ 9" ได้ทรงพระราชทานไว้ให้ จากนั้นไปเยือน "ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย" ดูการปลูกเมล็ดกาแฟอาราบิก้าบ้านห้วยห้อมอันโด่งดัง ก่อนจะเลยไปถึง "ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริ" ชมขั้นตอนการทอผ้าจากขนแกะ !! แต่ละแห่งจะน่าเที่ยวขนาดไหนนั้น ตามเรามาดูด้วยกันเลย ++++++++++++++++++++ รอยเท้าพ่อ จากแม่ลาน้อยถึงปางตอง ท้องฟ้าสดใส ใบไม้เปลี่ยนสี ลมหนาวกับเรื่องราวของผู้คนบนพื้นที่สูง บอกให้รู้ว่า "พ่อหลวง" รักและห่วงใยพวกเราแค่ไหน อาจหนาวแค่เพียงกาย แต่หัวใจเราอบอุ่นยิ่งนัก ตอซังข้าว สงบนิ่งในผืนนาหลังฤดูเก็บเกี่ยว ฝูงแกะทอดน่องเล็มหญ้าอย่างมีความสุข หากอยู่ในการศึกสงคราม ชัยภูมิของบ้านหลังนี้ถือว่าได้เปรียบคู่ต่อสู้ เพราะอยู่บนเนินสูงมองเห็นที่ราบด้านล่างจรดทิวเขาไกลลิบอย่างแจ่มชัด จนรู้สึกอิจฉาผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่าง มะลิวัลย์ นักรบไพร ที่ยกกาแฟมาเสิร์ฟให้นั่งจิบชมวิวไปเพลิน ๆ นาทีนี้น้อยคนนักจะไม่รู้จักเมล็ดกาแฟอาราบิก้าบ้านห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้นพันธุ์กาแฟที่พ่อหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงนำมาให้ปลูก บัดนี้หยั่งรากอย่างมั่นคงแข็งแรง เป็นพืชเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้ลูก ๆ จนชีวิตมีสุขในทุกวันนี้ "กาแฟอาราบิก้าที่รสชาติดี ขึ้นอยู่กับสามลักษณะคือ หนึ่ง … ปลูกภายใต้ร่มเงา สอง … ความสูงหนึ่งพันเมตรเหนือระดับน้ำทะเลขึ้นไป สาม … อากาศเย็นเฉลี่ยทั้งปี บ้านห้วยห้อมสูงแค่เก้าร้อยกว่า ๆ แต่ได้ปัจจัยเสริมอย่างอื่น คืออยู่ใกล้ร่องห้วย อากาศเย็น มีป่ามีร่มเงา กาแฟเลยมีคุณภาพ" มนูญ รักษาชล เจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย ซึ่งคลุกคลีอยู่กับงานส่งเสริมการปลูกกาแฟที่บ้านห้วยห้อมมานาน เล่าต่ออีกว่า ประเพณีของชาวปกาเกอะญอ จะนำสายสะดือเด็กเกิดใหม่ไปผูกไว้กับต้นไม้ ...
อ่านเพิ่มเติม

  อุโมงค์ดอกคูน เทคโนธานี จังหวัดปทุมธานี กำลังออกดอกเหลืองบานสะพรั่ง นับเป็นอีกหนึ่งสีสันความงดงามในช่วงฤดูร้อน ใครผ่านไปผ่านมาเที่ยวปทุมธานี ก็ต้องอดใจไม่ไหว แวะเข้ามาถ่ายรูปเซลฟี่ซะหน่อย อุโมงค์ดอกคูน (ดอกราชพฤกษ์) ออกดอกเหลืองบานสะพรั่งเป็นทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ณ บริเวณเกาะกลางทางเข้าเทคโนธานี คลองห้า จังหวัดปทุมธานี กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาเซลฟี่กับดอกไม้ ด้วยเพราะมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ อยู่เยอะ ทั้งนี้ความสวยงามของดอกคูนจะยังคงบานสะพรั่งไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนเมษายน 2560 ก่อนที่จะร่วงโรยไปตามสภาพอากาศและฤดูกาลที่ผันแปร ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง อุโมงค์ดอกคูน หรือดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติ กำลังออกดอกเหลืองสวย บริเวณทางเข้าเทคโนธานี ในพื้นที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ถนนเลียบคลองห้า ตำบลคลองห้า จังหวัดปทุมธานี เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ท่ามกลางกลีบสีเหลืองของดอกคูนที่บ้างก็ลอยปลิดปลิวบนพื้น และบ้างชูช่อพลิ้วไหวที่ต้น เป็นความสวยงามอย่างต้องตาต้องใจเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเซลฟี่อย่างไม่ขาดสาย ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ถึงแม้ว่าอากาศช่วงนี้อาจจะร้อนไปเสียหน่อย แต่ถ้าใครมาถ่ายรูปช่วงเย็น ๆ อากาศที่นี่ก็ถือว่าดีไม่น้อย มีลมเบา ๆ พัดมาเป็นระยะ โดยตลอดระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อน ๆ จะได้เห็นดอกคูนสีเหลืองที่ออกดอกอย่างพร้อมเพรียงกัน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเราถึงได้เห็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายเซลฟี่ที่นี่กันอย่างคึกคัก ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ประสงค์ จันทร์เปล่ง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ...
อ่านเพิ่มเติม

ข้อควรรู้ก่อนเดินทางเที่ยวเขาแหลมหญ้า จังหวัดระยอง อีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าร้อนบรรยากาศสุดชิล พบกับธรรมชาติสวย ๆ เหนือคำบรรยาย ใครที่กำลังวางแผนพักผ่อนที่เขาแหลมหญ้า เรามีมาแนะนำ เขาแหลมหญ้า สถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ที่นี่มีกิจกรรมท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมาย ทั้งยังได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติ อย่างท้องทะเลสวย ๆ ช่วงหน้าร้อนนี้หลายคนอาจคิดวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวที่เขาแหลมหญ้า วันนี้เราเลยมีคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนเดินทางไปเที่ยวที่เขาแหลมหญ้ากัน เก็บเอาไว้เป็นฐานข้อมูล ไว้เวลาไปถึงจริง ๆ เพื่อน ๆ จะได้สนุกกันอย่างเต็มที่ ภาพจาก Ford Contributor / Shutterstock.com 1. เขาแหลมหญ้า สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ภายในบริเวณที่ตั้งที่ทำการอุทยานแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีลักษณะพื้นดินที่มีรูปทรงแหลมยื่นออกไปในทะเล และได้รับอิทธิพลจากลมที่ค่อนข้างแรง ทำให้กล้าไม้น้อยใหญ่ไม่สามารถที่จะเจริญเติบโตได้ จะมีก็แต่เพียงหญ้าขึ้นเท่านั้น 2. กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเมื่อมาเที่ยวที่เขาแหลมหญ้า อย่างการถ่ายรูปกับสะพานยาว มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น มีลานกางเต็นท์และเต็นท์ให้เช่าภายในอุทยาน มีห้องพักให้เช่า และห้องอาบน้ำไว้คอยบริการ 3. นักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท รวมถึงเก็บค่ารถที่นำเข้ามาในอุทยานด้วย 4. เขาแหลมหญ้ามีลานกางเต็นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการอยากใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยจุดแรก อยู่ตรงบริเวณลานครองราชย์ 60 ปี (ต้นมะขาม) และจุดที่สอง ตรงบริเวณท่าเรืออุทยาน และจุดที่สาม ตรงบริเวณอาคาร 80 พรรษา ราคาเต็นท์สำหรับ 2 คนพร้อมเครื่องนอนราคา 290 บาท (กรณีที่นักท่องเที่ยวนำเต็นท์มาเอง จะต้องชำระค่าใช้สถานที่ในการพักแรมคืนละ 30 บาท/คืน และงดให้บริการเช่าเต็นท์ในช่วงฤดูฝน) โดยรอบล้อมด้วยจุดบริการนักท่องเที่ยวและร้านค้า โดยสามารถเข้าไปจองเต็นท์อุทยานล่วงหน้าได้ที่ เว็บไซต์ nps.dnp.go.th 5. นอกจากการนอนเต็นท์แล้ว ที่นี่ยังให้บริการบ้านเดี่ยวทั้งห้องพัดลมและห้องแอร์ พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น สำหรับ 2-5 คน ราคา 1,200-2,000 บาท และบ้านหลังใหญ่สำหรับ 12 คน ราคา 4,800 บาท ...
อ่านเพิ่มเติม

  หลบร้อนนอนชิลกับที่พักแนวธรรมชาติสวย ๆ ใต้ร่มเงาไม้ สวนสวย และลำธารไหลเอื่อย เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อน เป็นอีกหนึ่งประเภทที่พักวิวสวย ที่จะช่วยคลายร้อนและชาร์จพลังชีวิตไปด้วยในตัว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าช่วงนี้อากาศร้อนสุด ๆ ทำเอาหลายคนบ่นอุบไม่อยากออกไปเที่ยวไหนเลยทีเดียว แต่สำหรับขาเที่ยวทั้งหลาย ช่วงซัมเมอร์แบบนี้นี่แหละเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้ตักตวงความสวยงามจากธรรมชาติ ที่ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เจอกับความสดใส ท้องฟ้าก็แจ่ม วันนี้เราเลยขอเอาใจขาเที่ยวที่กำลังมองหาที่พักแนวธรรมชาติ มาฝาก รับรองเลยว่าคุณจะต้องรื่นรมย์กับบรรยากาศสุดชิล ที่ทำเอาคุณต้องตกหลุมรักเข้าอย่างจัง จนลืมอากาศที่ร้อนไปชั่วขณะ 1. Pundin Resort & Art ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pundin Resort & Art ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pundin Resort & Art ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pundin Resort & Art ที่พักแนว Eco เน้นใช้วัสดุธรรมชาติและวัสดุรีไซเคิล ล้วนแล้วแต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุด ๆ ด้วยเพราะพิกัดที่ตั้งอยู่บนเชิงดอยนก จึงสามารถมองเห็นทัศนียภาพของไร่สตรอว์เบอร์รีและทะเลหมอกยามเช้าได้เป็นอย่างดี ตัวอาคารสร้างจากไม้พาเลท ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่นานาพรรณ อีกทั้งยังมีกิจกรรมน่ารัก ๆ ให้กับแขกที่มาเข้าพักได้ทำ เช่น การปั้นดิน เหล่านี้เป็นสิ่งที่คอยสร้างบรรยากาศและช่วยเนรมิตให้วันพักผ่อนที่นี่ของคุณ กลายเป็นอีกหนึ่งวันที่แสนพิเศษ จนคุณเองก็ลืมไม่ลง ที่อยู่ : 305 หมู่ 1 ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เบอร์โทรศัพท์ : 098 806 7198 เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Pundin Resort & Art 2. เฌอชีวา ภาพจาก เฟซบุ๊ก Cher cheeva:::::เฌอชีวา ภาพจาก เฟซบุ๊ก Cher cheeva:::::เฌอชีวา ภาพจาก เฟซบุ๊ก Cher cheeva:::::เฌอชีวา ที่พักริมน้ำตกกลางหุบเขา ตั้งอยู่ที่บ้านแม่แมะ ในอำเภอเชียงดาว ที่พักแห่งนี้จะเป็นเหมือนเครื่องฟอกปอดขนาดใหญ่ ...
อ่านเพิ่มเติม

เรื่องน่ารู้ก่อนเดินทางเที่ยวเกาะสมุย อีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าร้อนสุดฮอต ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเกาะสมุย แล้วไม่รู้ว่าต้องเดินทางยังไง มีที่เที่ยวที่ไหน รวมถึงจะนอนที่ไหน วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว เกาะสมุย อีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลสุดฮอตแห่งหนึ่งของไทย แถมยังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยเพราะความสวยงามของเกาะสมุยที่มีความโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลอ่าวไทย จนได้รับการขนานนามว่า "สวรรค์แห่งทะเลอ่าวไทย" หลายคนชอบที่จะสัมผัสบรรยากาศของหาดทรายขาวละเอียด ที่ทอดยาวคู่ขนานไปกับทิวต้นมะพร้าวแนวยาว และกิจกรรมทางน้ำสนุก ๆ อีกเพียบ แต่ก่อนที่จะเดินทางไปพักผ่อน วันนี้เรามีข้อมูลก่อนเดินทางไปเที่ยวเกาะสมุยมาฝาก อย่างน้อยก็เพื่อให้เที่ยวได้โดยสะดวกและสนุกมากยิ่งขึ้น 1. เกาะสมุย เกาะที่ตั้งอยู่ในฝั่งทะเลอ่าวไทย และเป็นอำเภอในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเกาะสมุย เราจะเห็นต้นมะพร้าวเป็นจำนวนมาก ชนิดที่เรียกว่าเดินไปหาดไหนเป็นต้องเจอต้นมะพร้าวเรียงรายตามชายหาด ที่นี่มีที่พักสวย ๆ อยู่มากมาย เดินทางสะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ต่างกับเมืองใหญ่ ๆ เลยทีเดียว 2. การเดินทางมายังเกาะสมุย สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น - เครื่องบิน นักท่องเที่ยวสามารถบินตรงมายังเกาะสมุยได้เลย ซึ่งปัจจุบันมีสายการบินที่ให้บริการบินตรงมายังเกาะสมุย คือ การบินไทย และ บางกอกแอร์เวย์ส โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ซึ่งเที่ยวบินบินตรง อาจเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงอยู่เสียหน่อย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเครื่องมาลงที่สุราษฎร์ธานี แล้วต่อเรือมาที่เกาะสมุย ก็สามารถทำได้เช่นกัน - รถโดยสารประจำทาง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ได้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (ถนนบรมราชชนนี) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง มีให้เลือกหลายบริษัท ได้แก่ นครศรีราชาทัวร์, ศรีสุเทพทัวร์ และกรุงสยามทัวร์ เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถจองตั๋วรถโดยสารได้ผ่านช่องทางการบริการออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ จองตั๋วรถทัวร์.com หลังจากนั้นต่อรถไปที่อำเภอดอนสักเพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่เพื่อเดินทางมายังเกาะสมุย - รถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถไฟเพื่อนั่งมายังสุราษฎร์ธานีที่สถานีรถไฟหัวลำโพงได้ทุกวัน ซึ่งมีรถไฟให้บริการหลากหลายประเภท ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 10-12 ชั่วโมง สามารถตรวจสอบตารางการเดินรถได้ที่เว็บไซต์ railway.co.th 3. นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือเฟอร์รี่เพื่อที่จะไปเกาะสมุยที่อำเภอดอนสัก ซึ่งมีเรือให้บริการอยู่หลายบริษัทและหลากหลายราคาให้เลือก ได้แก่ - ซีทรานเฟอร์รี่ (ออกจากท่าเรือดอนสัก-ท่าเรือหน้าทอนที่เกาะสมุย ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ seatranferry.com - ราชาเฟอร์รี่ (ออกจากท่าเรือดอนสัก-ท่าเรือราชาที่ลิปะน้อย) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ rajaferryport.com ...
อ่านเพิ่มเติม

วันหยุดพักผ่อนว่าง ๆ อยากลองชวนไปขับรถเล่นกินลมชมวิวท้องทะเลและสัมผัสกับหาดทรายสวย ๆ ของจันทบุรี อยากหาที่เที่ยวทะเลบรรยากาศสบาย ๆ เป็นส่วนตัว สุดเงียบสงบ ต้องลองแวะไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลจันทบุรี จันทบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคตะวันออกที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวชมหลากหลายแบบ ทั้งป่าเขา ชุมชนเก่าแก่ สวนผลไม้ และท้องทะเลที่เงียบสงบ วันนี้เราจะพาไปลัดเลาะชายหาดของจันทบุรีกันค่ะ ไปดูสิว่าเมืองนี้มีทะเลสวย ๆ ที่ไหนให้ได้ไปพักผ่อนกันบ้าง 1. หาดเจ้าหลาว หาดเจ้าหลาว ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าใหม่ เป็นชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับท้องทะเล พร้อมทั้งแนวสนสูงอันร่มรื่นตลอดแนวชายหาด รวมทั้งยังมีหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส เหมาะแก่การลงเล่นน้ำทะเล มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกสนุกสนานหลากหลายแบบ พร้อมทั้งยังมีรีสอร์ท โรงแรมติดชายหาดเปิดให้บริการหลายแห่ง ที่นี่จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก การเดินทางมาเที่ยวง่ายดายและปลอดภัย 2. หาดคุ้งวิมาน หาดคุ้งวิมาน เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ที่อำเภอนายายอาม ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีเพียงแค่ 15 กิโลเมตรเท่านั้น ชายหาดที่นี่จะบรรยากาศเงียบสงบมาก และมีความสวยงามไม่น้อยไปกว่าหาดเจ้าหลาว สามารถลงเล่นน้ำได้ มีร้านอาหารทะเลชายหาด บรรยากาศชิล ๆ ให้บริการหลากหลายร้าน พร้อมทั้งที่พักอีกมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถที่จะขับรถชมวิวทะเลตามเส้นทางถนนเลียบชายหาดคุ้งวิมาน หรือถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ซึ่งเป็นถนนที่ได้ชื่อว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยได้อีกด้วย 3. ชายหาดแหลมเสด็จ ชายหาดแหลมเสด็จ ตั้งอยู่บริเวณตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ โดยชื่อแหลมเสด็จนั้นมาจากเมื่อปี พ.ศ. 2523 สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้เสด็จฯ มาที่นี่และลงกล้าต้นไม้บริเวณชายหาด ชาวบ้านจึงเรียกหาดแห่งนี้ว่า หาดแหลมเสด็จ ซึ่งตัวชายหาดจะมีลักษณะเป็นหาดทรายโค้งคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ มีระยะทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร มีแนวต้นสนร่มรื่นตลอดแนวชายหาด สามารถมานั่งเล่น ชมวิวทะเลได้อย่างชิล ๆ 4. อ่าวยาง สำหรับใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวทะเลบรรยากาศแบบส่วนตัว ต้องลองไปสัมผัสกับอ่าวยาง ซึ่งเป็นชายหาดเล็ก ๆ ในตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ บริเวณริมชายหาดบรรยากาศจะร่มรื่นไปด้วยแนวต้นสนและต้นไม้น้อยใหญ่ มีร้านอาหารเล็ก ๆ ให้บริการ เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนชมวิวทะเลแบบสบาย ๆ ในวันหยุด 5. อ่าวกระทิง อ่าวกระทิง ตั้งอยู่ภายในวนอุทยานแห่งชาติเขาแหลมสิงห์ เป็นชายหาดที่ได้ชื่อว่ามีบรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสุด ๆ ตัวชายหาดไม่กว้างมากนัก ...
อ่านเพิ่มเติม

ภูฟ้าไทย จุดชมวิวแห่งใหม่ของเชียงราย เหมาะสำหรับเป็นที่เที่ยวหน้าหนาว ไว้ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ พระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกสวย ๆ ที่คุณต้องประทับใจ ช่วงหน้าหนาวแบบนี้จะมีอะไรดีกว่าการขึ้นเหนือไปรับอากาศเย็น ๆ พร้อมกับกิจกรรมการชื่นชมทะเลหมอกสวย ๆ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากขึ้นไปเบียดเสียดผู้คนตามจุดชมวิวทะเลหมอกชื่อดังต่าง ๆ วันนี้เรามีอีกหนึ่งแหล่งจุดชมวิวทะเลหมอกสวย ๆ มาฝาก นั่นคือ "ภูฟ้าไทย" จังหวัดเชียงราย ที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอากาศหนาวเย็น ชมทะเลหมอก และชมวิวธรรมชาติได้รอบ 360 องศา ภาพจาก เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย ภาพจาก เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย ภูฟ้าไทย ตั้งอยู่ที่บ้านร่มฟ้าไทย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย และติดกับแนวชายแดน สปป.ลาว ฝั่งตรงข้ามบ้านเชียงของ ซึ่งนับเป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตัดกับทะเลหมอกในหุบเขาได้อย่างงามตา ด้วยเพราะภูฟ้าไทยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,515 เมตร จึงทำให้อากาศที่นี่หนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว นักท่องเที่ยวอาจจะได้พบเห็นปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งที่เกาะอยู่ตามยอดหญ้าเป็นบริเวณกว้าง ภาพจาก เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย ภาพจาก เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย ลักษณะเด่นของภูฟ้าไทยอยู่ที่ทางเดินขึ้นที่ค่อนข้างสะดวก ซึ่งเป็นทางเดินระยะทางเพียงแค่ 300 เมตร ข้างบนนักท่องเที่ยวจะได้ฟินกับจุดชมวิวทะเลหมอกในแบบ 360 องศา ขณะเดียวกันยังชื่นชมกับความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน อีกทั้งยังมองเห็นภูชี้ฟ้าบริเวณจมูกสิงโตได้อย่างชัดเจน ที่นี่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละ 200 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าเทศกาล ที่หวังให้ภูฟ้าไทยเป็นที่ระบายนักท่องเที่ยวจากภูชี้ฟ้า ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวหน้าหนาวที่คนไม่เยอะ สวยทุกตารางพื้นที่ ต้องไม่พลาดมาเช็กอินที่ภูฟ้าไทยอย่างเด็ดขาด นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย โทร. 053 744 674-5 และ 053 717 433 การเดินทางมายังภูฟ้าไทย เดินทางจากตัวเมืองเชียงรายโดยรถยนต์หรือรถประจำทางผ่านอำเภอเทิง ขึ้นไปถึงภูชี้ฟ้าที่หมู่บ้านร่มฟ้าไทย เดินเท้าจากหมู่บ้าน ผ่านสำนักสงฆ์ภูชี้ฟ้าขึ้นไปถึงจุดชมวิวภูฟ้าไทยระยะทาง 2 กิโลเมตร และอีกเส้นทางหนึ่งเดินเท้าจากจุดจอดรถวนอุทยานภูชี้ฟ้าขึ้นไปทางเดียวกับภูชี้ฟ้าประมาณ 400 เมตร เดินแยกไปทางด้านขวาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ...
อ่านเพิ่มเติม

มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนกันบ้าง 1. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ภาพจาก Mumemories / shutterstock.com ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของโครงการหลวงหนองหอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว ที่นี่จะกลายเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามมาก อีกทั้งโดยรอบของดอยม่อนแจ่ม ยังมีการตกแต่งอย่างสวยงาม รายล้อมไปด้วยดอกไม้นานาพรรณและไร่สตรอว์เบอร์รี จึงทำให้ที่นี่เป็นยอดดอยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี อิงขุนเขา โอบกอดฟ้า ณ ม่อนแจ่ม 10 เหตุผลแจ่ม ๆ ที่ทำให้ต้องไปเที่ยวม่อนแจ่ม ที่พักม่อนแจ่ม เยือนดอยสูง ชมวิวสวย ม่อนแจ่ม ในวันที่ฉ่ำฝน กับธรรมชาติงาม ๆ เที่ยวเชียงใหม่ในวันฝนพรำ ณ ระเบียงดาว ม่อนแจ่ม แม่กลางหลวง เที่ยวต้นหน้าฝน จากม่อนล้าน ม่อนตะวัน ม่อนแจ่ม สู่ม่อนล่อง 2. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ดอยหลวงเชียงดาว ยอดดอยที่สูงเสียดฟ้าในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวภูเขาที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจกันมากที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา ด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และมีทะเลหมอกสุดอลังการรอคอยนักเดินทางจากจุดสูงสุดของดอย อีกทั้งธรรมชาติอันสมบูรณ์ตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ก็เป็นเสน่ห์ให้ที่นี่น่าหลงใหลอย่างไม่ต้องสงสัย ดอยหลวงเชียงดาว ความงามของขุนเขาที่ต้องไปสัมผัส มนตร์เสน่ห์แห่งดอยหลวงเชียงดาว ความงามที่ซ่อนอยู่ในม่านหมอก ทริปเชียงดาว-แม่แตง-แม่กำปอง เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝนฟินมาก ที่พักเชียงดาว กับข้อมูลล่าสุดหลังเข้าจัดระเบียบพื้นที่ ดอยหลวงเชียงดาว จากอีกมุมมองหนึ่งที่น่าหลงใหลไม่น้อย 12 ที่พักเชียงดาว วิวดีโดนใจ หนาวนี้จูงมือไปนอนกันชิล ๆ 3. เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นยอดเขาที่ไม่สูงมากนัก (สูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 1,249 เมตร) แต่กลับมีความน่าสนใจและมีเสน่ห์ไม่น้อยหน้าไปกว่ายอดเขาไหน ๆ ในเมืองไทยเลยทีเดียว เพราะเส้นทางเดินไปยังยอดเขาช้างเผือกนั้น เรียกได้ว่ามีทั้งสุข เศร้า เคล้าน้ำตาเลยล่ะ ด้วยทางเดินจะต้องผ่านทั้งป่าเขา ทุ่งหญ้า เรียบบ้าง ขรุขระบ้าง แต่ที่สำคัญคือมันชันด้วยน่ะสิ บางช่วงยังต้องปีนป่ายสันเขาสุดหวาดเสียวที่มีพื้นที่กว้างเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร วัดใจกันไปเลย ยิ่งถ้าได้ไปเที่ยวในช่วงหน้าหนาว บอกเลยว่าจะต้องฟินหนักมาก เพราะทั้งบรรยากาศและทะเลหมอกจะสวยงามเกินคำบรรยายจริงๆ แบ็คแพ็กพิชิต ...
อ่านเพิ่มเติม

ทุ่งทานตะวันไร่มณีศรี เขาใหญ่ บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ กำลังทยอยออกดอกเหลืองอร่ามสุดสายตา เปิดไร่รอให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมและถ่ายรูปในช่วงหน้าหนาวนี้ กำลังเป็นที่ฮือฮาของโลกโซเชียลมีเดีย เพราะเป็นประจำในช่วงหน้าหนาวของทุกปี เราจะได้ยลโฉมความงดงามของทุ่งทานตะวันไร่มณีศร เขาใหญ่ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามอย่างใกล้ชิด โดยได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมไร่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2559 และคาดว่าดอกทานตะวันจะบานสะพรั่งให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมได้ไปจนถึงวันที่ 10 มกราคม 2560 เฟซบุ๊ก เที่ยวแบบกรู เฟซบุ๊ก เที่ยวแบบกรู เฟซบุ๊ก เที่ยวแบบกรู ทุ่งทานตะวันไร่มณีศร เขาใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทุ่งทานตะวันที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ด้วยเพราะพื้นที่ของทุ่งทานตะวันกว่า 500 ไร่ ทำให้เมื่อถึงช่วงที่ทานตะวันออกดอกบาน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นภาพความสวยงามของดอกทานตะวันเหลืองอร่ามโค้งไปตามเนินเขา ใครมาเห็นเป็นต้องอึ้งกับวิวอลังการแบบนี้ เฟซบุ๊ก เที่ยวแบบกรู เฟซบุ๊ก เที่ยวแบบกรู เฟซบุ๊ก เที่ยวแบบกรู เฟซบุ๊ก เที่ยวแบบกรู เฟซบุ๊ก เที่ยวแบบกรู และเพราะด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ของไร่ทุ่งทานตะวัน ทำให้ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ อยู่หลายมุม ลองเล็งหามุมที่ถูกใจ แล้วก็กดถ่ายรูปให้กระหน่ำกันไปเลย แต่เราแนะนำว่าถ้าอยากเก็บภาพทุ่งทานตะวันสวย ๆ แล้วละก็ ควรมาถึงที่ไร่สักประมาณ 9 โมงเช้าจะดีที่สุด และถ้าไม่อยากเจอคนเยอะ ๆ ไปเที่ยววันธรรมดาก็จะยิ่งดีใหญ่ เพราะถ้าไปวันเสาร์-อาทิตย์ นอกจากจะเจอกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เยอะเป็นพิเศษแล้ว อาจจะต้องเจอกับจำนวนรถที่เบียดเสียดเข้ามาในไร่ เพราะสภาพเส้นทางในไร่เป็นแบบวันเวย์ ถ้ามีรถสวนกันก็อาจจะลำบากเล็กน้อย ใครรู้ตัวว่าอยากเดินทางมาเที่ยวที่นี่ เห็นทีว่าอาจจะต้องรีบมากันเสียหน่อย เพราะดอกทานตะวันจะบานให้เราชื่นชมความสวยงามประมาณ 1 เดือนเท่านั้น (เผลอ ๆ อาจไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ) และคาดกันว่าปีนี้ดอกทานตะวันจะบานถึงประมาณวันที่ 10 มกราคม 2560 ได้ยืนถ่ายรูปกับดอกทานตะวันสวย ๆ กลางลมหนาวที่พัดมาเย็น ๆ นับเป็นบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาวที่ไม่อยากให้พลาดจริง ๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 089 284 5908 การเดินทางมายังทุ่งทานตะวันไร่มณีศร เขาใหญ่ จากกรุงเทพฯ วิ่งเข้าเส้นธนะรัชต์ เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 7 ให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงสามแยก ...
อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวภูเขา พิชิตยอดเขาสูงในเมืองไทย พร้อมสัมผัสบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติของผืนป่าและขุนเขา ที่รอให้นักท่องเที่ยวขาลุยทั้งหลายได้พิชิต มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบและหลงรักการท่องเที่ยวสไตล์เดินป่าและปีนเขา เหตุเพราะได้สัมผัสกับความเหนื่อย ความท้าทาย และความสุข ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ถูกแทรกเข้ามาเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย ด้วยความงดงามของขุนเขา ผืนป่า และก้อนเมฆ ล้วนเป็นบรรยากาศรอบตัวที่ทำให้ฟินเกินบรรยาย เช่นเดียวกับ คุณ above the cloud สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ตระเวนออกเดินทางพิชิต 15 ขุนเขาในเมืองไทย รวมระยะการเดินทางกว่า 200 กิโลเมตร และใช้เวลา 30 กว่าวัน นับเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่แสนท้าทาย และรอให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวขาลุยทั้งหลาย เตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม...แล้วตามบันทึกการเดินทางของ  คุณ above the cloud ออกไปลุยกัน           +++++++++++++++++++++++++++ 30 กว่าวันในป่า เดินเท้า 200 กว่ากิโลเมตร พิชิต 15 ยอดเขาแตะขอบฟ้าไทย (*ระยะทางคือระยะทางเดินเท้าไป-กลับ **ความสูงจากระดับน้ำทะเล อาจคลาดเคลื่อนเพราะวัดจาก GPS ตัวเองบ้าง ***จำนวนวันคือวันที่แนะนำสำหรับคนเดินป่าทั่ว ๆ ไป) สวัสดีครับ วันนี้ขอมาเขียนกระทู้อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน เอาเป็นว่าวันนี้อยากมาส่งต่อแรงบันดาลใจ จากการเดินป่าปีนเขาในประเทศไทยที่คนตัวเล็ก ๆ อย่างผมก็ทำได้ จุดเริ่มต้นผมเริ่มหลงใหลการปีนเขา เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อนหลังจากได้ไปปีนภูเขาไฟที่อินโดนีเซีย จากนั้นมาก็ได้มีโอกาสมาเดินป่าไทย แต่ก็เว้นห่างไปนาน เพราะเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ พอเรียบจบจึงมีโอกาสทำตามฝันตัวเองกับการตามล่าเก็บยอดเขาทั้งเตี้ยทั้งสูงในไทยจนครบ 15 ยอด ในปี 2016 ที่ผ่านมา ส่วนมากของการเดินป่าของผม ผมมักจะเดินทางเอง จัดการเองทุก ๆ อย่าง เตรียมของ เตรียมอาหาร หาสมาชิก ติดต่อเจ้าหน้าที่ จนไปถึงแบกของเองทั้งหมดในบางครั้ง ก็ต้องบอกตรงนี้เลยว่าเหนื่อยมาก ๆ แต่พอย้อนกลับไปมองสิ่งที่เราผ่านมา นึกแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ มันคือประสบการณ์อันล้ำค่าสุด ๆ หลาย ๆ สิ่งได้เกิดขึ้น ได้เรียนรู้ ได้พบมิตรภาพ ได้เจอกัน ได้จากกัน ได้เห็นธรรมชาติผืนป่าของไทยของเราว่าสวยงามแค่ไหน ได้เห็นสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ รอยเท้าเสือ เสียงร้องนกหายาก แมลงตัวเล็ก ...
อ่านเพิ่มเติม

ช่วงวันหยุดยาว ใครกำลังมองหาที่เที่ยวพักผ่อน บรรยากาศสบาย ๆ มาดูที่เที่ยวทะเลชลบุรี ที่เที่ยวทะเลระยอง ซึ่งเป็นที่เที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ คนไม่เยอะ ได้เลยที่นี่ สามารถไปเที่ยวพักผ่อนได้แบบชิล ๆ ไม่ต้องไปแออัดกับผู้คนมากมายในช่วงเทศกาล มาดูกันเลยมีที่ไหนบ้าง  เที่ยวทะเลชลบุรี 1. หมู่เกาะไผ่ เกาะไผ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากพัทยาเท่าไหร่นัก ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือบริเวณหาดพัทยาไปยังที่เกาะไผ่ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น และด้วยที่เกาะไผ่แห่งนี้อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ โดยหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ทำให้เกาะแห่งนี้มีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ บรรยากาศเงียบสงบมาก น้ำทะเลใสแจ๋ว เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนแบบวันเดย์ทริป การขึ้นไปเที่ยวบนเกาะไผ่จะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อนเท่านั้น นอกจากเกาะไผ่แล้วก็ยังมีเกาะบริวารที่อยู่รอบ ๆ ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย อย่างเช่น เกาะมารวิชัย ที่มีหาดทรายขาวสะอาด เนื้อเนียนละเอียด มีแนวปะการังอยู่รอบ ๆ เกาะ และเกาะเหลือม ซึ่งมีหน้าผาหินปูนรูปร่างแปลกตาสวยงาม สามารถดูรายละเอียดได้ที่ turtles.navy.mi.th หรือโทร. สอบถามสำนักงานการท่องเที่ยวเกาะไผ่  โทรศัพท์ 0 3843 1477 2. หาดบางเสร่ หาดบางเสร่ ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ มีลักษณะเป็นชายหาดยาว บริเวณชายหาดมีทิวต้นมะพร้าวให้ความร่มรื่น บรรยากาศเงียบสงบมาก ตลอดแนวชายหาดจะมีถนนเลียบชายหาด สามารถขับรถชมวิวได้แบบชิล ๆ หรือใครอยากจะมานอนพักผ่อนสูดอากาศดี ๆ ริมทะเล ในบางเสร่ก็มีที่พักหลากหลายแบบให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อน อีกทั้งยังมีร้านอาหารทะเลอร่อย ๆ ให้เลือกไปโดนอีกมากมาย 3. หาดทรายแก้ว ภาพจาก mai111 / shutterstock.com หาดทรายแก้ว ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตัวชายหาดทอดยาวประมาณ 1,700 เมตร เป็นหาดทรายปนปะการัง และมีสีขาวสะอาดตา เนื้อทรายเนียนละเอียด ตลอดแนวชายหาดมีทิวสนให้ความร่มรื่น บรรยากาศเงียบสงบมาก มีร้านค้า ห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หาดทรายแก้ว สถานที่ท่องเที่ยวสัตหีบ 4. หาดน้ำใส หาดน้ำใส ตั้งอยู่ในเขตของกองทัพเรือ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ เป็นชายหาดยาวและมีความสวยงามมากแห่งหนึ่งของชลบุรี บริเวณชายหาดขาวสะอาด ...
อ่านเพิ่มเติม

เที่ยวกรุงเทพฯ พาทัวร์วังเก่าที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรม รวมถึงร่องรอยประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ที่พลาดไม่ได้แม้แต่ที่เดียว กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีประวัติเก่าแก่มายาวนาน แน่นอนว่าจึงมีสถานที่สำคัญมากมายทางประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน สำหรับพระราชวังหรือวังเก่าต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ นั้น นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง หรือแม้แต่บางครั้งก็ยังได้รับความสนใจจากต่างชาติ วันนี้เราเลยขออาสาพาทัวร์วังเก่าในกรุงเทพฯ ซึ่งแต่ละที่ล้วนแล้วแต่ปรากฏร่องรอยแห่งอดีตที่น่าสนใจ และนับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของการเที่ยวกรุงเทพฯ ที่ยากจะลอกเลียนแบบ โดยขอเริ่มกันที่… 1. วังลดาวัลย์ ภาพจาก เฟซบุ๊ก Kasinthep Yai Khuna วังลดาวัลย์ หรือวังแดง ตั้งอยู่ติดถนน 3 ด้าน คือ ถนนประชาธิปไตย ถนนลูกหลวง และถนนราชสีมา ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ (ต้นราชสกุลยุคล) ภายนอกงดงามด้วยสถาปัตยกรรมยุควิคตอเรียเช่นเดียวกับภายใน อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมแบบจีนเข้ามาผสม สำหรับผู้เข้าชม : ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก แต่ส่วนใหญ่มักเปิดให้เข้าชมในโอกาสพิเศษเท่านั้น ดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2. วังบางขุนพรหม ภาพจาก เว็บไซต์ ฺbot.or.th เป็นวังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ต้นราชสกุลบริพัตร และสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี พระมารดา ตำหนักใหญ่วังบางขุนพรหมมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยการตกแต่งผนังปูนปั้นอันวิจิตร นับเป็นอาคารที่มีลวดลายประดับงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ปูนปั้นเหล่านี้ล้วนเป็นลวดลายที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกในสมัยต่าง ๆ กัน โดยออกแบบให้สอดคล้องกับองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม สำหรับผู้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมเป็นรายบุคคล/หมู่คณะโดยไม่เก็บค่าบริการเข้าชม ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมในวันเสาร์ โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า ระหว่างเวลา 10.30-16.00 น. สอบถามได้ที่โทรศัพท์ 02 283 5286, 02 283 6723, 02 283 6152, 02 356 7702 หรือเว็บไซต์ bot 3. วังจักรพงษ์ ภาพจาก ...
อ่านเพิ่มเติม

เกาะไหง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ แต่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มของทะเลตรัง เนื่องจากการเดินทางจากจังหวัดตรังสะดวกมากกว่า หาดทรายบนเกาะขาว น้ำทะเลใส มองเห็นปลาหลายพันธุ์หลากสี รอบเกาะปะการังยังสมบูรณ์ วันนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ ตาม คุณหัสชัย บุญเนือง นักเขียนอนุสาร อ.ส.ท. ที่ได้พายเรือคายักออกเดินทางไปสำรวจความงามของทะเลเกาะไหงมาอวดสายตาของท่านผู้อ่านกันค่ะ หัสชัย บุญเนือง...เรื่อง อานนท์ พลอินทร์, สุธิพัฒน์ ประภากรสกุล...ภาพ แสงสุดท้ายของวัน ทาบลงบนภูเขาหินปูนเบื้องหน้าที่ตระหง่าน ท้าสายลมและเกลียวคลื่นอยู่กลางทะเลคลื่นลูกเล็ก ๆ ซัดกระซิบฝั่งไม่ขาดสาย ลอนทรายใต้คลื่นลูกแล้วลูกเล่าได้รับการปั้นแต่ง ปูลมตัวขาวชูตาขึ้นมาเหนือรูบนผืนทราย ก่อนจะวิ่งออกมาหาอาหารและกลับไปอย่างรวดเร็วเมื่อถูกรบกวน รอยเท้าคู่นั้นทิ้งไว้อย่างแผ่วเบา มีเพียงเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแห่งความสุขเท่านั้นที่เก็บไป ชีวิตของคนเดินทางจะต้องการอะไรมากไปกว่าการพักผ่อนอย่างเต็มเวลา ภายใต้ผืนฟ้า สายลม เสียงคลื่น และหาดทราย กับการท่องทะเล ด้วยแรงแขนตัวเอง...คายักเกาะไหง... ปฐมบทแห่งเกลียวคลื่น ปลายฤดูร้อนของปีกลายในช่วงเวลาเย็นอันเงียบสงบ มีเพียงเกลียวคลื่น ผืนทราย และนักท่องเที่ยวไม่กี่คนบนชายหาด ผมนั่งมองเรือโยกไกวเบา ๆ พร้อมคลื่นลูกเล็ก ๆ "ไม่กี่วันพายุจะเข้าแถวนี้ บรรยากาศของนักท่องเที่ยวจะหายไป เหลือเพียงความเกรี้ยวกราดของธรรมชาติ ปีหน้าหากมีเวลามาพายเรือรอบเกาะด้วยกัน" ปลา สุธิพัฒน์ ประภากรสกุล อดีตนักเขียนและช่างภาพธรรมชาติ ที่วางหลักไมล์ของกลิ่นหมึกไว้เบื้องหลัง ก่อนมาวางหัวใจไว้บนเกลียวคลื่นในดินแดนบ้านเกิด ด้วยการเปิดกิจการต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมเต็นท์พักแรมติดแอร์และอาหารเลิศรส รวมทั้งเรื่องราวของการอนุรักษ์ธรรมชาติในนามของ "ตรังทัวร์" หรือ Sea Open Diving เกาะไหง ต้นฤดูร้อนปี 2560 ผมแจ้งไปว่าอนุสาร อ.ส.ท. อยากจะนำความสุขและความงดงามของทะเลเกาะไหงมาอวดสายตาของท่านผู้อ่าน ทั้งยังจะได้สำรวจรอบเกาะด้วยคายักในคราวเดียวกันนี้เลย ซึ่งกว่าจะได้วันที่ลงตัวก็เลื่อนกันไปหลายรอย เนื่องจากปีนี้ภาคใต้โดนมรสุมจนเกือบสิ้นเดือนแรกของปี ผมเดินทางออกจากพระนครในช่วงเวลาเช้าตรู่ของวันแรกแห่งกุมภาพันธ์ และสาย ๆ ของวันนั้นก็มาเริ่มต้นอาหารเช้ากันแบบจัดเต็มกับยุทธจักรความอร่อย ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คัดสรรให้จังหวัดตรังเป็นจุดหมายที่ไม่อาจพลาดของนักกิน ติ่มซำชุดใหญ่ยกมาวางทั้งขนมจีบกุ้ง หมู ปู ปูอัด ฮะเก๋า ซาลาเปา เปาะเปี๊ยะ รวมไปถึงปาท่องโก๋ (ลักษณะเป็นก้อนสีขาวนุ่ม ๆ ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมน้ำตาลทรายเอาไปนึ่ง เนื้อฟู ๆ หยุ่น ๆ ไม่ใช่ปาท่องโก๋ที่เป็นแป้งทอด ซึ่งคนไทยเรียกสับสนกันมาตลอด ทั้งที่ควรเรียกว่า ...
อ่านเพิ่มเติม

เรื่องน่ารู้เกาะกูด จังหวัดตราด ที่เที่ยวทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย จนได้รับสมญานาม "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" ใครกำลังเตรียมตัวเดินทางเที่ยวเกาะกูด เรามีมาแนะนำ เกาะกูด อีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่นี่นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องท้องทะเลและชายหาดที่สวยงาม จนได้รับการขนานนามให้เป็น "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก" แล้ว ที่เกาะกูดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอื่น ๆ ที่น่าสนใจอยู่เพียบ และนี่จึงนับเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเกาะกูดที่ใครต่อใครต่างอยากจะมาเที่ยว สำหรับใครที่ช่วงนี้วางแผนอยากที่จะไปเที่ยวเกาะกูดอยู่แล้วในใจ วันนี้เรามีเรื่องน่ารู้เล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการเตรียมตัวไปเที่ยวเกาะกูดมาฝาก เพื่อที่ว่าเมื่อไปถึงเกาะกูด คุณจะได้ตักตวงความสุขและความสนุกได้อย่างเต็มที่ 1. เกาะกูด อยู่ในจังหวัดตราด มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ และเป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกของไทย บนเกาะกูดถือได้ว่ายังคงมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีน้ำตกใหญ่ ๆ หลายแห่ง เช่น น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกคลองยายกี๋ มีหาดสวย ๆ ป่าชายเลน และแนวปะการังหลากชนิด เป็นต้น 2. การเดินทางไปเกาะกูด ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเกาะกูดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพราะมีบริการเรือที่ไปเกาะกูดมากขึ้น แถมเรือที่ให้บริการมีขนาดใหญ่ รองรับผู้โดยสารได้เป็นหลักร้อย สะดวกและปลอดภัย แต่โดยหลัก ๆ มักนิยมเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ทและเรือด่วน ลงเรือที่ท่าเรือแหลมศอก และมีผู้ประกอบการให้บริการเป็นประจำ ดังนี้ - เรือบุญศิริ Boonsiri Ferry โทรศัพท์ 085 921 0111, 086 333 8560, 099 226 5777 (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ boonsiriferry.com หรือ เฟซบุ๊ก Boonsiri High Speed Catamaran) - เรือเกาะกูดเอ๊กซ์เพรส Kohkood Express โทรศัพท์ 090 506 0020, 087 785 7695 (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ เกาะกูดเอ๊กซ์เพรส.ไทย) (ทั้งนี้นักท่องเที่ยวไม่สามารถนำรถข้ามไปเกาะกูดได้ และควรมาถึงท่าเรือก่อนเรือออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อจอดรถและเตรียมสัมภาระต่าง ๆ ให้พร้อม) 3 ...
อ่านเพิ่มเติม

  สันหนอกวัว  ที่เที่ยวกาญจนบุรี ไต่ระดับความสูง ชื่นชมธรรมชาติงดงามเกินคำบรรยาย ใครรู้ตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยวขาลุย งานนี้ฟิตร่างกายให้พร้อมแล้วไปลุยพร้อมกัน สันหนอกวัว หรือเขาสันหนอกวัว ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี และจัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวปราบเซียนสำหรับนักท่องเที่ยวขาลุยทั้งหลาย เพราะจะต้องฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินไต่ระดับขึ้นสู่ยอดเขาตระหง่าน เช่นเดียวกับ คุณ D140 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เอาตัวไต่ระดับความสูง ขึ้นไปสัมผัสกับวิวบนยอดเขา ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามสุดสายตา ได้ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินแบบอลังการจนทำเอาติดตรึงใจไปอีกนานแสนนาน เชื่อว่าหลายคนเริ่มชักอยากเห็นบรรยากาศกันบ้างแล้ว รอช้าอยู่ทำไม…ตามไปดูด้วยกันเลย +++++++++++++++++++++++++ สันหนอกวัว ครั้งเดียวคงไม่พอ ก็ไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหนดี สุดท้ายก็ตกลงกันที่ "สันหนอกวัว" ไม่ใกล้ ไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนัก จัดทริปสัก 3 วัน 2 คืน ก็คงดี มีสมาชิกกัน 9 คน ขาลุยทั้งนั้นเลย แถมนิสัยดี ๆ กันทุกคน ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่สรุปได้ว่าควรเริ่มออกเดินทางไม่ควรเกิน 10.00 น. เพราะว่าระยะทางไกลพอสมควร กลัวจะขึ้นไปถึงมืดแล้วจะอันตราย แต่เนื่องจากหน่วยป้อมปี่ซึ่งเป็นจุดขึ้นรถเพื่อไปส่งเรายังจุดเริ่มต้นเดินนั้นใกล้สังขละบุรีแค่ 30 กิโลเมตร พวกเราเลยไป slow life กันที่สังขละก่อน ทำให้เวลาเริ่มต้นเดินนั้นเลยเวลามาเป็น 11.30 น. กว่าจะขึ้นถึงก็จวนจะค่ำแล้ว กางเต็นท์ไป ทำกับข้าวไป ถ่ายภาพไป ทำ 3 อย่างในเวลาเดียวกัน ทำไปได้ ภาพไม่สวยก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย อุปกรณ์ถ่ายภาพทริปนี้ กล้อง DSLR 1 ตัว เลนส์ มุมกว้าง 1 เทเล 1 มาตรฐาน 1 ถือว่าครบช่วง ค่ำมาก็ล้อมวงกินข้าว เคล้าสุรานิดหน่อย รอแสงดาว ได้มาแค่นี้ ก่อนขึ้นมาถึงจุดกางเต็นท์มีฝนตกลงมานิดหน่อยพอให้เปียก เราเลยคิดว่าคืนนี้ถ้าฝนหยุดเราต้องเห็นดาวชัดแน่ ๆ ขออีกสักภาพกับทางช้างเผือกงาม ๆ ถ่ายภาพได้เป็นระยะ ๆ เพราะจะมีหมอกปลิวมาปกคลุมยอดเขา เช้าตื่นขึ้นมาตี 5 พี่เจ้าหน้าที่ใจดีอาสาพาเราขึ้นไปส่งที่ยอดเขาเพื่อให้เราได้ถ่ายภาพก่อน ภาพนี้ดวงดาวที่หน้าเต็นท์ครับ ...
อ่านเพิ่มเติม

แอดได้จอง package 4 เกาะหัวใจมรกต (2 วัน 1 คืน) มาระนองทั้งที ต้องจัดให้คุ้ม ก็ไม่ได้มาบ่อยเนอะซึ่งในทริปประกอบด้วย เกาะหัวใจมรกต เกาะฮอร์ทชู เกาะย่านเชือก เกาะตาฟุก ทุกเกาะอยู่ในประเทศพม่าเหมือนเดิม ซึ่งแพคเกจนั้น มีให้เลือกนอนได้ 3 ที่ คือ 1.โรงแรมแกรนอันดามัน เกาะสอง 2.เกาะฮอร์ทชู 3.เกาะตาฟุก ราคาแตกต่างกันไป แอดตัดสินใจเลือก นอนเกาะฮอร์ทชู เพราะเคยดูรูปแล้ว เกาะมันเป็นโค้ง เกือกม้า สวยดี น่าจะมีอะไรให้ถ่ายรูปเยอะๆ และเกาะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกได้ถ่ายแสงเช้าด้วย การเตรียมตัวเที่ยว 1 ) ซื้อ package ทัวร์สามารถซื้อ ผ่าน Agency We love andaman สนใจซื้อได้ที่นี่ครับ http://bit.ly/2hW0ngs ส่วนผู้ให้บริการท่องเที่ยวนั้นจะเป็น Grand Andaman ทะเลอยู่ในเขตพม่า แต่ไม่ต้องกังวลเลย การเดินทางไปนั้นง่ายมากๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องการ Passport แค่บัตรประชาชนใบ เดียวก็เดินทางไปได้ โดยทางบริษัททัวร์จะนำบัตรประชาชนของเรา ไปทำใบผ่านแดนล่วงหน้าครับ ถึงวันเดินทาง ก็แค่ยื่นบัตร ปปช เท่านั้นเอง 2) จากนั้นก็พาตัวเอง มาให้ถึง จ. ระนอง จะเดินทางโดยรถทัวร์ หรือ เครื่องบิน แล้วแต่งบประมาณ ทางบริษัททัวร์จะดูแลทั้งขารับและขาส่ง ถึง หน้าโรงแรม หรือ สนามบิน หรือ บขส ไปเที่ยวกันเลยย ตอนเช้ารถของ Grand Andaman จะไปรับที่โรงแรมที่พักครับ ไปที่ท่าเรือ Grand Andaman เพื่อยื่นใบผ่านแดนเราก็เตรียม บัตรปปช. ให้เรียบร้อยห้ามลืมนะครับ ไม่งั้นไปไม่ได้นะ หลังจากขึ้นเรือออกเดินทาง เรือต้องผ่านด่าน ตรวจที่เกาะสอง ก่อนครับ ที่แรกที่เรือแวะ ก็คือ เกาะฮอร์สชู ครับ ...
อ่านเพิ่มเติม

วันนี้เราจะพาทุกคนไปตามรอยแคมเปญ #เที่ยวไทยเท่ ที่มี นาย ณภัทร เสียงสมบุญที่พาคุณแม่สุดสวยอย่าง แม่หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ ไปท่องเที่ยวสไตล์ไทยๆในจังหวัดน่านสุดเท่ จะเท่อย่างไรมีอะไรในจังหวัดน่าน เราจะไปค้นหากันกับ "น่านนะสิ ดีต่อใจ" ชมวีดีโอคลิปที่ภาพ จังหวัด น่าน เป็นหนึ่งในแคมเปญ เที่ยวไทยเท่ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเราจะพาไปหาคำตอบว่ามีอะไรดี มีอะไรเท่ น่านเป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งเมื่อธรรมชาติสมบูรณ์ผลผลิตและทรัพยากรที่มีก็ต้องมากมายเหลือล้นเช่นกัน รวมไปถึงความสวยงามของทางภูมิภาคที่สร้างสรรค์พื้นที่เล็กๆที่ยิ่งใหญ่และสวยงามมาให้กับคนไทย นี่แหละครับไม่เท่ ไม่เที่ยวได้อย่างไร คำตอบทั้งหมดอยู่ด้านล่างนี้เลย.... "บ่อเกลือ" จุดกำเนิดของอำเภอบ่อเกลือจังหวัดน่าน อยากแรกที่จะกล่างถึงคือ ความมีชื่อเสียงของจังหวัดน่านในการทำเกลือ ซึ่งน่านมี บ่อเกลือ บนภูเขาสูง คนน่านสมัยก่อนชอบเรียกว่า"ทองคำขาว" ส่งออกทางภาคเหนือทั้งหมด ทำให้เกลือนั้นเป็นของล้ำค่าของจังหวัดนี้เลยก็ว่าได้ ลักษณะเม็ดเกลือที่ขาวบริสุทธิ์ มีรสเค็มที่นุ่มนวลอย่าลงตัว เป็นผลิตภัณฑ์หลักของจังหวัดน่านแห่งนี้กันเลย "ที่พัก" เท่ๆที่คอยเติมเต็มใจและเติมเต็มความสุขในการพักผ่อนแบบเท่ๆที่จังหวัดน่าน รับรองว่าดีต่อใจอย่างแน่นอน บ่อเกลือ วิว รีสอร์ท อีกหนึ่งที่พักบรรยากาศขั้นเทพที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันเงียบสงบ ได้เข้าถึงวิถีชีวิตของชาวน่านในการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย สบายๆ สามารถมองเห็นวิวทุ่งนา และกิจกรรมที่รอต้อนรับผู้เข้ามาเยือนอีกมากมาย เช่น สวนสตรอเบอร์รี่ บวกกับห้องพักสไตล์เงียบๆแนวธรรมชาติอีกด้วย อุ่นไอมาง  ที่พักสไตล์น่ารัก แนวพื้นบ้าน ในอำเภอบ่อเกลือ ที่จะทำให้คุณทุกท่านได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและวิถีชีวิตของชาวบ้าน บรรยากาศเงียบสงบ นั่งฟังเสียงน้ำข้างริมลำน้ำมาง และสามารถเลือกพักที่พักได้ทั้งแนว กระท่อม และ กระโจม เป็นโฮมสเตย์ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและน่ารักๆ ตกดึกนอนดูดาว จูงมือคนที่เรารักไปพักกันคงจะดีไม่น้อย เป็นการพักแบบเท่ๆ อยู่แบบเท่ๆได้เป็นอย่างดี "ผลผลิตเด่นจากทรัพยากรของจังหวัดน่าน" ที่ดูมีเสน่ห์ เป็นผลิตภัณฑ์ประจำจังหวัดที่มีเอกลักษณ์น่าหลงใหล มากจากงานฝีมือ ธรรมชาติ และวิถีชีวิตจนออกมาเป็นจุดเด่นของจังหวัดทำให้ดูเท่ยิ่งขึ้น ผ้าทอเมืองน่าน  เป็นสืบสานวัฒนธรรมโบราณของชาวน่าน ที่สร้างสรรค์ผ้าทอชาวน่านชิ้นงามนี้ขึ้นมา เป็นสถาปัตยกรรมไทยลื้อ ซึ่งเอกลักษณ์คือลายน้ำไทย ปัจจุบันมีการออกแบบสร้างสสค์ ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น เป็นที่ชื่นชอบเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว เพราะมีสไตล์ เท่ๆ เก๋ๆ ตามยุคสมัยปัจจุบันเลยทีเดียว เครื่องเงินเมืองน่าน เครื่องเงินน่านมีมาแต่โบราณ ตามยุคสมัยก่อนเครื่องเงินมีไว้ใช้สำหรับเป็นภาชนะ ใช้ส่งส่วยอากรผลิตจากเม็ดเงินแท้และมีลวดลายมากมาย ลายเทพพนม ลานสิบสองราศี ปัจจุบันสมัยนี้นิยมการถักสร้อยนิยมนำมาเป็นเข็มขัดเรียกว่าเข็มขัดเปียกำลังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว การออกแบบเครื่องประดับที่ไม่แข็งเกินไป ค่อนข้างไปทางอ่อน เป็นงานฝีมือที่ประณีต จึงทำให้เครื่องเงินน่านไม่เหมือนที่อื่น กาแฟเกอิชา ...
อ่านเพิ่มเติม

          เขาหล่น ที่เที่ยวนครนายกที่น่าสนใจ ไว้เดินทางมาถ่ายรูปกับบรรยากาศธรรมชาติสวย ๆ ใครที่ชอบถ่ายรูป มาเที่ยวจุดชมวิวเขาหล่นรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เขาหล่น อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก ที่แวดล้อมด้วยผืนป่าธรรมชาติและจุดชมวิวสวย ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปยอดฮิต รวมถึงกิจกรรมผจญภัยต่าง ๆ ที่เตรียมไว้รองรับนักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางปั่นจักรยาน เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ หรือจะเป็นเส้นทางชมความน่ารักของเหล่านกนานาชนิด นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่น่าสนใจ ใครที่ชอบถ่ายรูป มาเที่ยวที่นี่รับรองว่าไม่มีผิดหวัง ภาพจาก เฟซบุ๊ก ลาพักเที่ยว ภาพจาก เฟซบุ๊ก ลาพักเที่ยว ภายในอาณาบริเวณผืนป่าของเขาหล่น อยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลสาริกา และการท่องเที่ยวจังหวัดนครนายก ที่นี่มี "จุดชมวิวเขาหล่น" หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เดินทางมาเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามของที่นี่อยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ภาพจาก เฟซบุ๊ก ลาพักเที่ยว ภาพจาก เฟซบุ๊ก ลาพักเที่ยว ภาพจาก เฟซบุ๊ก ลาพักเที่ยว จุดชมวิวเขาหล่น เป็นสถานที่ถ่ายทำทั้งละคร มิวสิควิดีโอ มาแล้วนับไม่ถ้วน ความสวยงามของที่นี่อยู่ที่โลเคชั่นหลากหลายมุมให้เราเลือกกดชัตเตอร์ ทั้งดงดอกหญ้า หน้าผาหินสวย ๆ ที่รับรองเลยว่าคุ้มค่ากับการขับรถมาเที่ยวจริง ๆ อีกทั้งการเดินทางก็ทำได้สะดวก เพราะทางเข้าอยู่ติดกับถนนใหญ่ที่มุ่งหน้าไปเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งห่างกันแค่ประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร พอเลี้ยวเข้าจากปากทางจะมีทางแยกไปรีสอร์ทฝั่งขวา แต่สำหรับจุดชมวิวเขาหล่นให้ขับขึ้นมาตรงทางแยกฝั่งซ้าย ขับมาตามป้าย ไม่นานก็จะเจอป้ายที่เขียนว่า "จุดชมวิวเขาหล่น" เป็นอันถึงจุดหมายปลายทางของเรา ภาพจาก เฟซบุ๊ก ลาพักเที่ยว ภาพจาก เฟซบุ๊ก ลาพักเที่ยว สำหรับใครก็ตามที่ขึ้นไปเที่ยวเขาหล่นที่นี่มีพื้นที่จอดรถไว้บริการ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนำรถขึ้นไปจอดได้เลย และด้วยเพราะจุดชมวิวเขาหล่นมีลักษณะเป็นพื้นที่โล่ง เราขอแนะนำให้คุณสวมกางเกงขายาว เพราะหญ้าแถวนั้นค่อนข้างคัน บางคนเผลอใส่กางเกงขาสั้นอาจเกิดอาการแพ้และคันได้ และที่สำคัญ ควรสวมรองเท้าผ้าใบ เพราะพื้นที่ทางเดินค่อนข้างขรุขระ มีทั้งหินและดินเต็มไปหมด           สุดท้าย…ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมจนถึงเวลา 18.00 น. ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยบอก สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริการส่วนตำบลสาริกา โทรศัพท์ 037 616 301-2 หรือ เว็บไซต์ องค์การบริการส่วนตำบลสาริกา ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เว็บไซต์ องค์การบริการส่วนตำบลสาริกา, เฟซบุ๊ก องค์การบริการส่วนตำบลสาริกา, เฟซบุ๊ก ...
อ่านเพิ่มเติม

วันนี้จะพาไปชมสถานที่เที่ยว One day trip ในแต่ละจังหวัดที่สามารถเดินทางไปและกลับได้สบายๆ เหมาะสำหรับใครที่กำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ไม่อยากค้างคืน หรือพักแรม เป็นจังหวัดบ้านใกล้เรือนเคียงกับกรุงเทพมหานครเรานี่เอง ที่ขนกันมาไม่ว่าจะเป็นวัด น้ำตก แหล่งธรรมชาติ สวนสนุก ฯลฯ ที่จะชวนทุกท่านออกเดินทางไปพักผ่อนได้ง่ายๆ เดินทางไม่เกิน 3 ชมก็จะถึงที่หมายยังมีเวลาให้ทำกิจกรรมอีกมากมายโดยจัดเรียงอันดับจากเวลาเดินทางมากไปน้อยจะมีที่ไหนบ้างไปชมกันเลยดีกว่า -------------------------------------- 10.ทุ่งโปรงทอง (ระยอง) ป่าชายเลนสีทองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บนพื้นที่ปากน้ำประแส เป็นการไปเที่ยวชื่นชมกับธรรมชาติของป่าชายเลน ที่มีความเหลืองอร่าม หามุมถ่ายภาพสวยๆ ซึ่งสวยระดับที่ว่าถ่ายรูปได้ตลอดเส้นทางไม่มีเบื่อ หรือจะมาพักชาร์ตแบตชมวิวเพลินๆกับป่าชายเลนที่ยาวสุดลูกหูลูกตาก็ได้เช่นกัน รวมถึงไปค้นหาสัตว์หายากนกชนิดต่างอีกมากมายเลยทีเดียว เป็นที่ที่หนึ่งที่ชาร์ตพลังและเติมเต็มใจได้ทั้งวันเลยทีเดียว โดยใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมง 45 นาทีโดยประมาณ 9.เกาะแสมสาร (ชลบุรี) หนึ่งเกาะยอดฮิตในจังหวัดชลบุรีที่มีคนจองตั๋วเดินทางกันอย่างเต็มจำนวน เพราะมีเที่ยวไปกลับอย่างชัดเจน เป็นแหล่งท่องเที่ยว One day trip อย่างแท้จริงเพราะเกาะนี้ไม่สามารถพักค้างแรมได้นั่นเอง ซึ่งภายในเกาะมีความเงียบสงบ อุดมไปด้วยธรรมชาติมากมายและเสียงของคลื่นทะเลที่ซัดกระทบฝั่งอย่างชัดเจน มีกิจกรรมดำน้ำเล่นน้ำและเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เหมาะเป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อมากๆในการท่องเที่ยวแบบ One day trip อีกที่หนึ่ง โดยใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมง 30 นาที โดยประมาณรวมการสัญจรทางเรือแล้ว 8.เขาใหญ่ (นครราชสีมา) แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมา ที่ใครๆต้องรู้จัก มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ท่านได้เลือกไปมากมายหลากหลายแนวอย่างครบวงจร ทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นกันมาอย่างล้นหลาม หรือแม้กระทั่งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มๆ ซึ่งเชื่อว่า การเดินทางท่องเที่ยววันเดียวกลับ ที่เขาใหญ่แห่งนี้จะอยู่ในลิสต์เป้าหมายในการเดินทางอย่างแน่นอนซึ่งเป็นที่หนึ่งที่ให้ครบหลากหลายอารมณ์การเดินทางอย่างแท้จริง โดยใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมง 30 นาที 7.ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า (สระบุรี) อีกที่หนึ่งที่พาเราหนีตึกราบ้านช่องและความวุ่นวายเมืองกรุงไปซึมซับกับศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เราจะได้สัมผัสกับคำว่าธรรมชาติอย่างเต็มรูปแบบเต็มหน่วยเลยทีเดียว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายลุย สายธรรมชาติ ที่มีให้ได้ทำกิจกรรมต่างๆมากมายเช่น เดินป่า เที่ยวน้ำตก หรือจะถ่ายภาพสวยๆสักหนึ่งใบ ไปสัมผัสความร่มรื่นเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติพร้อมทั้งคลายร้อนจากการเล่นน้ำตก โดยใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงโดยประมาณ 6.เขื่อนขุนด่านปราการชล (นครนายก) จังหวัดที่อากาศดีที่หนึ่งในประเทศไทยที่ใครๆก็ไปได้มาพร้อมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจ ที่พอได้เห็นแล้วถึงกับร้อง ว้าว!! กับทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงามสุดๆ ชมพระอาทิตย์ตกก็ดีต่อใจไม่น้อย สัมผัสอากาศไปพร้อมกับการถ่ายรูปสวยๆ ได้หลายมุมหลายแนวเลยทีเดียว ซึ่งก็มาพร้อมกับกิจกรรมมากมายมีการล่องแก่งภายในเขื่อน นักท่องเที่ยวสาย Adventure ก็ไม่ควรพลาดเช่นกันนะครับผม โดยใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงโดยประมาณ 5.อุทยานหินเขางู ...
อ่านเพิ่มเติม

น้ำตกวังเคียงคู่ ตั้งอยู่ที่ จังหวัดพังงา เป็นจังหวัดทางภาคใต้ที่ใครๆคงนึกถึงแต่ทะเลใช่ไหมหละครับ แต่วันนี้เราจะพาทุกท่านไปล่องแพไม้ไผ่ ที่พัดไหลไปกับสายน้ำและเป็นกิจกรรมง่ายๆที่ใครๆก็สามารถสัมผัสได้ทุกเพศทุกวัย การล่องแพไม้ไผ่ที่นี่เป็นกิจกรรมง่ายๆที่จะพานักท่องเที่ยวทุกท่านล่องแพไปกับสายน้ำเย็นๆ ชิวๆ กวักน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทางเข้านั้นจะอยู่ตรงข้ามกับทางเข้าท่าเรือทับละมุ โดยใช้เวลาทำกิจกรรมทั้งหมด 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใส่เสื้อชูชีพกันเลยเพราะไม่มีอันตรายใดๆและไม่ลึกมากเพราะเป็นธารน้ำตื้นและยังสามารถลงเล่นน้ำกันได้อีกด้วย สายน้ำที่นี่ใสเอามากๆ เพราะเป็นป่าต้นน้ำไหลมาจากน้ำตกวังเคียงคู่เลยทำให้ที่นี่น้ำใสและธรรมชาติสุดๆ ที่ดึงดูดและชักชวนนักท่องเที่ยวทุกคนให้ลงไปเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานหรือใครไม่อยากจะเปียกน้ำก็ล่องแพชิวๆชมวิวได้อีกด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่นิยมล่องแพไม้ไผ่นี้ในช่วงเช้าที่บรรยากาศกำลังเป็นใจ แสงแดดอ่อนๆ น้ำเย็นๆและบรรยากาศสุดร่มรื่น ฟินและชิวกันไปเลยทีเดียว การล่องแพไม้ไผ่ของที่นี่สามารถจะล่องได้เกือบทั้งปีเลยอีกด้วย และ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ถ้าได้มาท่องเที่ยวที่ จังหวัดพังงา ก็อย่าลืมแวะมาล่องแพไม้ไผ่ชิวๆแบบนี้ และยังเป็นการได้สูดกลิ่นอายธรรมชาติที่ลัดเลาะตามโขดหิน ริมคลอง ป่าไม้ต่างๆ ที่บรรยากาศล้อมรอบด้วยความเขียวขจี ทำให้เป็นการเติมเต็มพลังงานชีวิตที่ดีได้อีกด้วย ตามคำพูดที่ว่า "พังงาเมืองที่อบอุ่นโอบล้อมด้วยขุนเขา" นั่นเอง ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

ปัจจุบันนี้เมื่อพูดถึงกาญจนบุรีหลายๆคนคงพูดกันถึงเรื่องแม่น้ำแคว รถไฟสายมรณะ และแพริมน้ำ บทความนี้จะพาไปพบกับ 5 แพริมน้ำ ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน บรรยากาศดีไม่แพ้กัน 1.ริเวอร์เเคว จังเกิ้ลราฟท์ ริเวอร์เเคว จังเกิ้ลราฟท์ ห้องพักทุกห้องตั้งอยู่บนแม่น้ำแคว ห้องพักมีทั้งห้องเตียงเดี่ยว ห้องเตียงคู่ พร้อมมีเปลญวนให้พักผ่อนหย่อนใจ และมีกิจกรรมผจญภัยรองรับนักท่องเที่ยว พร้อมสัมผัสกับธรรมชาติแบบวัฒนธรรมชาวมอญ เคยได้รับการันตีด้วยรางวัล 1 ใน 10 รีสอร์ที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิคอีกด้วย แต่ที่นี่ไม่มีไฟฟ้า เพราะฉะนั้นเก็บโทรศัพท์มือถือของท่านไว้!!! ราคา :  2,490-6000+ บาท Website : https://www.riverkwaijunglerafts.com/ 2.หลุบพญารีสอร์ต บ้านริมสวน แพริมน้ำ บ้านริมหาด บ้านริมแคว ที่แสนโรแมนติกเรียงรายตามโค้งน้ำ ความงดงามของธรรมชาติ ท่ามกลางขุนเขา ต้นไม้นานาพันธ์ และสายน้ำที่ทอดยาวของลำน้ำแควใหญ่และพันธ์ไม้ใหญ่น้อยเรียงรายเขียวขจี ให้ความร่มรื่นในทุกฤดูกาล สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์อย่างใกล้ชิด ราคา : 940-2000+ บาท Website : http://www.lubephayaresort.net/ 3.แพลุงติ๊ก แพริมแม่น้ำบรรยากาศสบายๆริมแม่น้ำแควน้อย ทีเด็ดคืออาหารอร่อย คุ้มค่ากับราคา แถมมีกิจกรรมให้ทำอีกด้วย ห้องพักราคาไม่แพง หากใครแวะไปเที่ยวกาญจนบุรีไม่ควรพลาด ราคา : 700-3000+ บาท Fanpage : https://www.facebook.com/PhaeTik 4.บ้านริมแคว-แพริมน้ำ แพตั้งอยู่ใกล้กับสะพานรถไฟมรณะ บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการพักผ่อนจากการทำงานที่หนักมาทั้งสัปดาห์ ราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน ใครที่ไปเยือนสะพานรถไฟสายมรณะก็คงจะเห็นแพของ’บ้านริมแคว-แพริมน้ำ’กัน ราคา : 350-5000+ บาท Website :  http://www.banrimkwae.com/ 5.The For Rest Resort แพที่ได้รับความนิยมสูงจากหมู่ท่องเที่ยวที่ไปสนุกเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ท่ามกลางวิวภูเขา มีเปลให้บริการประจำห้องพัก ราคาคุ้มค่าแถมมีกิจกรรมอีกด้วย ราคา : 1300-2600+ บาท Website : http://theforrestresort.com/ ขอบคุณข้อมูลจาก travel.sanook   Image Source The Forrest Resort บ้านริมแคว-แพริมน้ำ ...
อ่านเพิ่มเติม

เดินทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดต่างๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น มีงบน้อยก็สามารถเที่ยวได้ถ้าใจเราไปถึง 1.สถานีชะอำ ถ้าพูดถึงจังหวัดเพชนบุรี หลายๆคนคงนึกถึงชายหาดชะอำ ชายหาดยอดนิยมของจังหวัดเพชรบุรี ชายหาดทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา และน้ำทะเล กับเสียงคลื่น กับบรรยากาศ ออนเดอะบีซ ที่หลายๆคนหลงใหล ถึงจะอยู่ใกล้กรุงเทพเพียงไม่กี่ ชม. แต่จะดีแค่ไหนถ้าคุณได้เดินทางด้วยรถไฟมาที่นี่ได้แบบฟรีๆ แถมยังได้ซึมซับบรรยากาศของธรรมชาติระหว่างทางอันสวยงาม มีเวลาแค่วันเดียวคุณก็สามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ เก็บกระเป๋าตอนกลางคืนแล้วก็ออกเดินทางตอนเช้าได้เลย 2.สถานีหัวหิน หัวหินเมืองตากอากาศในฝันของใครหลายๆคน แถมยังอยู่ใกล้กรุงเทพไม่ไกลนัก โดยสถานีรถไฟหัวหินนั้นถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเมืองหัวหินเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นสาเหตุ ให้นักทองเที่ยวเดินทางด้วยรถไฟไปเที่ยวเมืองหัวหินกันแบบชิลๆไปถ่ายรูปคู่กับสถานีรถไฟ นอกจากนี้ยังมีชายหาดและทะเลสวยๆให้ได้เที่ยวกันแบบเต็มอิ่ม อาหารทะเลที่นี่ก็สด อร่อย เป็จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวควรมาเยือนสักครั้ง และสามารถนั่งรถไฟฟรีแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายมาได้ด้วย 3.สถานีพัทยา ที่เที่ยวยอดฮิตใกล้กรุง พัทยามีทั้งความเป็นเมืองแห่งแสงสีเสียง และธรรมชาติอันงดงาม ทั้งเกาะ ทะเล ชายหาด บรรยากาศภายในเมืองที่ครื้นเครงตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเมืองพัทยานี้ก็สามารถนั่งรถไฟฟรีมาได้ด้วย สำหรับคนที่ประหยัดงบการเดินทางไว้ใช้จ่ายกับส่วนอื่นของการท่องเที่ยว และชอบบรรยากาศระหว่างสองข้างทาง ของทางรถไฟสายพัทยา คุณสามารถมาเที่ยวพัทยาได้เพียงงบแค่ไม่เกิน 500 บาท ถือว่าตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีงบน้อยแต่ต้องการท่องเที่ยวสุดๆ 4.สถานีฉะเชิงเทรา  จังหวัดเล็กในเขตปริมณฑล แต่วัฒนธรรม และ สถานที่ท่องเที่ยวนั้นไม่ได้เล็กไปตามจังหวัดเลย ที่นี่ เป็นแหล่งรวมของกินอร่อยๆ และ ที่เที่ยวต่างๆมากมาย เช่น วัดหลวงพ่อโสธร วัดสมานรัตนาราม นมัสการพระพิฆเนศองค์ใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีคาเฟ่ต์และร้านอาหารน่ารักๆริมแม่น้ำบางประกงให้คุณไปนั่งชิลๆกินอาหารอร่อยๆ พักผ่อนในช่วงวันหยุดอีกด้วย และการเดินทางมาที่นี่ก็ง่ายแสนง่ายเพราะอยู่ใกล้กรุงเทพมาก นั่งรถไฟฟรีมาแค่แปปเดียวก็ถึงแล้ว เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ไม่ควรพลาด 5.สถานีถ้ำกระแซ ถ้ำกระแซ ถ้ำแห่งประวัติศาสตร์ ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยคุณจะได้นั่งรถไฟไปบนทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ที่วิ่งผ่านแม่น้ำแคว และแวะถ่ายรูปกับสถานีรถไฟถ้ำกระแซ รวมทั้ง นมัสการสิ่งศักสิทธิ์ภายในถ้ำ นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำแคว อันสวยงาม แวะชิมร้านอาหารอร่อยๆในบริเวณสถานี ทั้งหมดนี้ คุณสามารถมาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย 6.สถานีเชียงใหม่ นั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่กันเถอะ คำนี้หลายๆคนคงเคยได้ยิน แต่จะมีสักกี่คนทีเคยได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศการเดินทางด้วยรถไฟสู่เชียงใหม่จริงๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเส้นทางนี้ใช้เวลาในการเดินทางนานพอสมควร แต่สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นคุ้มค่าแน่นอน ถ้าคุณวางแผนการเดินทางดีๆ คุณจะสามารถไปเที่ยวเชียงใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเลยในการเดินทาง ซึ่งหลายๆคนคงทราบดีว่าที่เชียงใหม่นั้นมีธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงามแค่ไหน คุณสามารถประหยัดเงินค่าเดินทางเพื่อนำเงินไปเป็นทุนในการเที่ยวที่ต่างๆในเชียงใหม่ได้ ถือเป็นทางเลือกที่ดีมากๆในการจัดทริปสู่เชียงใหม่ และต้องบอกเลยว่าบรรยากาศสองข้างทางระหว่างกรุงเทพสู่เชียงใหม่ บนรถไฟนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดและชิลมากๆ ต้องลองดูสักครั้งหนึ่ง 7.สถานีลพบุรี ลพบุรีเมืองเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่นี่มีโบราณสถานที่ยังคงความสมบูรณ์และสวยงามไว้อยู่มากมาย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีธรรมชาติของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อันสวยงาม ใครที่ไม่ชอบนั่งรถตู้หรือรถทัวร์ ...
อ่านเพิ่มเติม

ดอยแม่ตะมาน สันป่าเกี๊ยะ ที่เที่ยวเชียงใหม่สุดฮิต ที่สามารถไปชมทะเลหมอกและยอดดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างงดงามสุด ๆ อีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ ในการไปพักผ่อนและเที่ยวที่เชียงใหม่ ดอยแม่ตะมาน สันป่าเกี๊ยะ ตั้งอยู่ภายในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นยอดดอยที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติค่อนข้างมาก วันนี้เราจึงรวบรวมข้อควรรู้และเกร็ดท่องเที่ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับดอยแม่ตะมาน สันป่าเกี๊ยะ มาฝากกันค่ะ เพื่อที่ว่าจะได้เตรียมตัวไปเที่ยวกันได้แบบพร้อมสุด ๆ - ทำความเข้าใจกันก่อนค่ะว่า "ดอยแม่ตะมาน" และ "สันป่าเกี๊ยะ" ไม่ใช่ที่เดียวกันนะ อ๊ะ ๆ แต่อย่าเพิ่งตกใจ เพราะทั้งสองที่นี้อยู่ในอำเภอเชียงดาว ใช้เส้นทางไปเที่ยวเส้นทางเดียวกัน และอยู่ห่างกันเพียงแค่ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น - ชื่อเต็ม ๆ ของทั้งสองสถานที่คือ หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน และสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ (อยู่ในความดูแลของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว เช่นเดียวกัน - หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน และสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ มีดอกนางพญาเสือโคร่งให้ชมทั้งสองแห่ง - ถ้าอยากชมวิวดอยหลวงเชียงดาวแบบอลังการ พร้อมทั้งทะเลหมอกสุดกว้างใหญ่ ต้องไปเที่ยวชมที่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ แต่ใช่ว่าที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมานจะไม่สวย ที่นี่ก็มีจุดชมวิวทะเลหมอกให้ได้ชมด้วยเช่นกัน และยังรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่บรรยากาศร่มรื่น - ดอยแม่ตะมาน สันป่าเกี๊ยะ มีที่พักไหม ? มีค่ะ ในส่วนของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมานมีบ้านพักไว้รองรับ แต่ต้องจองล่วงหน้า ส่วนที่สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ มีทั้งบ้านพักเป็นหลังและลานกางเต็นท์ - สถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ มีบ้านพักเป็นหลังไว้รองรับนักท่องเที่ยวในราคาหลังละ 1,000 บาท สามารถพักได้ 5 ท่าน ส่วนลานกางเต็นท์จะอยู่ที่เต็นท์หลังละ 100 บาท พักได้ 2 ท่าน มีห้องน้ำไว้บริการ (*ข้อมูล ณ วันที่ 16 มกราคม 2560) - ทั้งที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน และสถานีวิจัยเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ไม่มีร้านค้าไว้บริการ จึงต้องสั่งอาหารกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า หรือถ้าซื้อขึ้นไปทำเองก็จะมีค่าธรรมเนียมบำรุงสถานที่เล็กน้อย และนักท่องเที่ยวจะต้องเอาถุงดำขึ้นไปเก็บขยะลงมาด้วย - อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะว่าด้านบนนั้นไม่มีร้านค้า เพราะฉะนั้นจะต้องเตรียมซื้อข้าวของที่จำเป็นขึ้นไปให้พร้อม และจะดีมากหากโทรศัพท์ไปบอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่ก่อนเดินทาง ...
อ่านเพิ่มเติม

วันนี้เราได้มี รีวิวดีๆมาฝาก จาก จากเพจ เลิฟทริป ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ของช่วงซัมเมอร์นี้อย่างมาก นั่นคือ รีวิวเขื่อนเชี่ยวหลานนั่นเอง สงกรานต์ที่ผ่านมาแอดได้มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวที่เขื่อนเชี่ยวหลาน ที่นี่เป็นอีกที่ ที่อยากไปมานานมากๆแล้ว ก็เลยตัดสินใจ ขับรถลงใต้ เพื่อทำบุญให้บรรพบุรุษที่สงขลา ขากลับจะได้แวะ เข้าสุราษฎร์ เพื่อไปเขื่อนเชียวหลานกันต่อในวันที่ 16 เมษา จากถนนสายเอเชีย ขับรถเข้าไปเขื่อนเชียวหลานนั้น วิวข้างทางสวยมากเลยเป็นถนนอีกเส้น ที่ประทับใจมากๆ มารู้จักเขื่อนเชี่ยวหลาน กันก่อนเขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราฎร์ธานีลักษณะเป็นภูเขาหินปูน ยอดแหลม แนวหน้าผาสูงชัน บรรยากาศสวยงามจนได้รับ สมญานามว่า" กุ้ยหลินเมืองไทย " เขื่อนเชี่ยวหลานสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันไป มาต่อกันในส่วนของที่พักนั้น เราเลือกแพภูตะวันเพราะเป็นแพแคปซูล มันสวยและแปลกตาดีซึ่งน้องๆหลายคนเคยมาพักแล้วบอกว่าดีด้วยราคาที่พักที่นี่คิดเป็นรายหัว หัวละ 2800 บาท นอน 1 คืน รวมอาหาร 3 มื้อ พาชมวิว ล่องแพไม้ไผ่แวะถ้ำปะการัง โปรแกรมการเที่ยวเป็นแบบนี้ครับ วันแรก 10.00 ออกเดินทางจากท่าเรือ ไปเก็บสัมภาระที่แพภูตะวัน 11.00 - 12.30 นั่งชิวถ่ายรูปเล่น ทานข้าวเที่ยง 12.30 ไปนั่งเรือ ชมวิว กุ้ยหลินเมืองไทย แวะ เขาสามเกลอซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่สวยงามมาก เขื่อนที่นี่ใหญ่มากๆน้องๆ ทะเลสาบเลยทีเดียว น้ำสีเขียวมรกตเพราะภูเขาที่นี่เป็นหินปูน ส่วนน้ำก็ใสมากๆเลยแถมอากาศดีสุดๆ 13.00 ไปเดินป่าไประยะทางไปกลับ 3 กิโล ล่องแพไม้ไผ่ เพื่อไปถ้ำปะการัง แปลกมากๆ ถ้ำปะการัง ไม่มีกลิ่นอับซักนิด อากาศถ่ายเทดีมากๆแถมหินงอกหินย้อยสวยงามอีกด้วย 15.00 เดินทางกลับ ไปพายเรือคายักหน้าห้อง กระโดดน้ำเล่นคลายร้อน 18.30 ทานข้าวเย็น ไฟเปิด 18.00-6.00 เท่านั้นครับ เพราะใช้เครื่องปั่นไฟ ส่วนห้องน้ำที่นี่เป็นห้องน้ำรวมครับตื่นเช้ามาก็ทานข้าว กลับถึงฝั่ง 9 โมงกว่าๆ จากนั้นก็ขับรถไปสันเขื่อนวิวสวยงามมากๆ ถ่ายรูปเล่นต่อได้เลย ที่เขื่อนเชียวหลานนั้น สามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูครับถ้าเพื่อนๆ รีบมากันเลย พลาดไม่ได้เลยนะ!! ...
อ่านเพิ่มเติม

  แนะนำที่เที่ยวเปิดใหม่ปี 2017 เอาไว้ให้คุณเดินทางไปเช็กอินความสุขและความสนุกแบบไม่ยั้ง ใครที่ไม่อยากเชย สงสัยว่างานนี้ต้องไปเช็กอินที่เที่ยวเปิดใหม่ 2017 อย่างด่วนเสียแล้ว ในปี 2017 นี้ มีที่เที่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายหลายแห่ง บางแห่งเปิดมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2016 ซึ่งมีทั้งพิพิธภัณฑ์ ตลาดนัด หอสมุด รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่าง ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาถ้าเกิดว่าใครเบื่อที่จะไปแต่สถานที่ท่องเที่ยวเดิม ๆ ซ้ำ ๆ วันนี้เราเลยขอเอาใจขาเที่ยวทั้งหลาย ด้วยการพาชมที่เที่ยวเปิดใหม่ 2017 เชื่อแน่เลยว่าคุณจะต้องถูกใจ รวมถึงยังสร้างสีสันให้การเที่ยวของเพื่อน ๆ มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ว่าแต่จะมีที่เที่ยวเปิดใหม่ที่ไหนน่าไปเช็กอินบ้างนั้น ตามเรามาดูด้วยกันเลย 1. บ้านบางเขน แหล่งเช็กอินแฮงก์เอาท์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ อยู่แถวบริเวณย่านบางเขน ตรงข้ามกับกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และติดกับสวนอาหารบางบัว โดดเด่นด้วยลักษณะอาคารตึกไม้ทรงโบราณ ที่มีกลิ่นอายของวันวาน ที่นี่ได้รวบรวมของเก่าสะสมโบราณ ท่ามกลางความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียว เหมาะสำหรับการนัดคุยงานและอ่านหนังสือ รวมถึงยังได้ลิ้มลองอาหารจานเด็ดจากทุกท้องถิ่น ขนมหวานและเครื่องดื่มแสนชื่นใจอีกด้วย ขาดไม่ได้กับมุมที่นั่งและมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะถูกตกแต่งด้วยข้าวของวัตถุโบราณของหายาก (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เฟซบุ๊ก บ้านบางเขน หรือ โทรศัพท์ 085 921 6666) 2. เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ภาพจาก เฟซบุ๊ก มณฑณัช ธรรมพาปรีดา ภาพจาก เฟซบุ๊ก มณฑณัช ธรรมพาปรีดา ภาพจาก เฟซบุ๊ก มณฑณัช ธรรมพาปรีดา ที่เที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี  ตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ ติดปั๊มบางจาก ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค โดยเมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 เป็นเมืองโบราณ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 60 ไร่ ซึ่งได้จำลองวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ในสมัยอดีต ในรัชกาลที่ 5 หลังการประกาศเลิกทาส นักท่องเที่ยวจะสนุกไปกับการเดินทางย้อนวันวาน รวมถึงอาคารบ้านเรือนไทย อาหารไทยดั้งเดิม เงินที่ใช้ในการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน รวมถึงภาษาที่ใช้ ซึ่งภายในมีจุดท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ถ่ายรูปเก๋ ๆ ...
อ่านเพิ่มเติม

  หากใครกำลังมองหาที่เที่ยวคลายร้อน แนะนำให้ลองไปสัมผัสกับ สวนน้ำ C&Y Water Park สุพรรณบุรี ที่เที่ยวแห่งใหม่ของสุพรรณบุรีที่จะมาสร้างความชุ่มฉ่ำให้กับร้อนนี้ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลยค่ะ ซึ่งขับรถไปเที่ยวได้เพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น โดยเฉพาะใครที่ชอบไหว้พระ ก็มีหลากหลายวัดให้ได้ไปทำบุญกัน แต่ถ้าอยากไปเที่ยวคลายร้อน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสวนน้ำแห่งใหม่ของสุพรรณบุรีกัน กับสวนน้ำ C&Y Water Park สุพรรณบุรี ที่ต้องบอกว่ามีความมันรอคุณอยู่ ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wherever I Go ภาพจาก เฟซบุ๊ก C&Y Water Park สวนน้ำ C&Y Water Park ตั้งอยู่ที่บ้านโคกยายเกตุ ตำบลเจดีย์ อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นสวนน้ำขนาดกลาง ที่เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องเล่นต่าง ๆ มากมาย และยังมีการแยกโซนผู้ใหญ่ และโซนเด็กไว้อย่างชัดเจน มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอด พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก และร้านค้า ร้านอาหารครบครัน ภาพจาก เฟซบุ๊ก C&Y Water Park ภาพจาก เฟซบุ๊ก C&Y Water Park ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wherever I Go ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wherever I Go ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wherever I Go ภาพจาก เฟซบุ๊ก Wherever I Go ภายในสวนน้ำ C&Y Water Park จะมีบริการเครื่องเล่นสไลเดอร์ลอยน้ำ ที่อยู่ในสระน้ำสุดกว้างใหญ่ ลึกประมาณ 2.5 เมตร กระโดดเล่นน้ำกันได้อย่างสนุกสนานสุด ๆ และยังตอกย้ำความมันด้วยสไลเดอร์ยักษ์สูง 13 เมตร หรือใครที่ชอบความท้าทายจะประลองความมันกับ Watersofa ก็ได้เช่นกัน ...
อ่านเพิ่มเติม

ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวในภาคใต้แล้ว หลายๆคนคงนึกถึง ทะเลสีฟ้าสดใส หาดทรายสีขาวแสนสวย และแสงแดดอ่อนๆยามบ่าย แต่วันนี้นวลจะพาแฟนๆ ไปสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ไปชมความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งไม่สามารถเห็นได้แล้วในเมืองใหญ่ ไปชมแสงแรกและแสงสุดท้ายของวันพร้อมสูดอากาศดีๆเข้าปอดกัน จังหวัดพัทลุง ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกของแหลมมลายู เป็นอีกจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเลนะรู้ป่าว? แต่มีแหล่งน้ำที่สำคัญคือทะเลสาบสงขลา และทะเลน้อยที่ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำโลก แห่งแรกของเมืองไทยด้วยนะเธอ บอกก่อนเลยว่าการมาพัทลุงครั้งนี้ ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตของนวลที่ได้มาเที่ยวใต้ (ใต้สุดที่เคยมาเที่ยวก็หัวหินเองแกเอ้ยยยยยยยย) แต่เชื่อไหมว่าการมาเที่ยวใต้ครั้งนี้ นวลไม่ได้ไปเที่ยวทะเลเลย ก็ตามสไตล์นวล ที่ชอบพาเข้าป่า ขึ้นเขา หาเก้งหากวาง ทริปพัทลุงครั้งนี้ก็เช่นกัน นวลจะพาไปฟินกับธรรมชาติ วิถีชีวิต พาไปเดินตลาด ลงเรือชมนกชมไม้ ถ้าพร้อมกันแล้วก็เก็บกระเป๋า ตามนวลมาได้เลยค้าบบบบบบบบบบบบบ นวลเดินทางมาถึงพัทลุงก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงของวันเสาร์ สิ่งแรกที่นึกได้ในตอนนั้นคือ ต้องหาอาหารใต้เข้าปากเท่านั้น เพราะน้องๆที่อยู่ในกระเพาะร้องกันโอ๊กอ๊ากๆ นวลและผองเพื่อนที่นำทีมด้วยเจ๊น้ำหวาน (เดี๋ยวนวลจะมาเล่าทีหลังนะว่าเจ๊น้ำหวานเป็นใคร ขอติดไว้ก่อน) พานวลไปหย่อนไว้ที่ “ตลาดป่าไผ่สร้างสุข สวนไผ่ขวัญใจ” บรรยากาศคล้ายๆตลาดนัด แต่ที่เก๋เวอร์คือจะมีร้านค้าอาหารพื้นเมือง มาขายให้ นวลมีโอกาสได้ชิมข้าวยำ เขาจะเอาข้าวนานาชนิดมายำใส่ปลาแห้ง ไข่ต้ม ถั่วฝักยาว วิธีกินก็เอามายำๆรวมๆกันบีบมะนาวใส่แอบอร่อยอยู่น่ะครับ แต่ที่ไปแล้วต้องกินให้ได้เลยก็คือลูกชกลอยแก้วนะครับลักษณะคล้ายๆกับลูกตาล แต่หนึบและหอมกว่ามากกกกกก ที่สำคัญหากินได้แถบภาคใต้เท่านั้นนะครับ หลังจากที่กองทัพอิ่มหนำสำราญกับอาหารใต้นานาชนิดแล้วนั้น เราก็เดินทางไปชมอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองพัทลุง นั้นก็คือวังเจ้าเมือง หรือที่เรียกว่าวังเก่า-วังใหม่ ตั้งอยู่ใกล้กับวัดวังเดิมเป็นที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุงปัจจุบัน ยังเหลืออยู่ส่วนหนึ่งคือ วังเก่าที่สร้างในสมัยพระยาพัทลุง (น้อยจันทโรจนวงษ์) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อมาวังได้ตกทอดมาจนถึงนางประไพ มุตามะระบุตรีของหลวงศรีวรฉัตร ส่วนวังใหม่สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2432 โดยพระยาอภัยบริรักษ์จักราวิชิตพิพิธภักดี (เนตร จันทโรจนวงษ์) บุตรชายของพระยาพัทลุงซึ่งเป็นเจ้าเมืองพัทลุง ครอบครัวจันทโรจนวงษ์ได้มอบวังนี้ให้เป็นสมบัติของชาติและกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานวังเก่า ในปีพ.ศ 2535 นวลชวนรู้....เรือนไทยภาคใต้ส่วนใหญ่จะใช้ไม้ในการก่อสร้างรูปทรงของเรือนเป็นเรือนไม้ ใต้ถุนสูงประมาณคนก้มตัวลอดผ่านได้ เสาทุกต้นไม่ฝังลงดินเพราะว่าดินมันชื้น และก็จะทำให้เสาผุเร็ว แต่จะตั้งอยู่บนแผ่นปูนหรือแผ่นหินเรียบ ๆ ที่ฝังอยู่ ในดินให้โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินไม่เกิน 1 ฟุต เพื่อกันมิให้ปลวกกัดตีนเสาและกันเสาผุจากความชื้นของดิน ตีนเสา ตอนล่างห่างจากพื้นดิน ประมาณ 1- 2 ฟุต จะมีไม้ร้อยทะลุเสาทุกต้นตามความยาวของเรือนทั้ง 3 แถวเพื่อทำหน้าที่ยึดโครงสร้างของเรือนให้แข็งแรงมากขึ้นนะครับ หลังจากแดดร่มลมตก เราก็เดินทางกันต่อไปยังสะพานแห่งความสุข สะพานยาวไส้กลิ้ง-หัวป่า  หรือ สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 ...
อ่านเพิ่มเติม

1.สิปปะ ฮอทสปริง เชียงใหม่ รีสอร์ตน้ำพุร้อนขนาดกลางบนเนื้อที่ 38 ไร่  บริเวณโดยรอบโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี ภายในร่มรื่นด้วยพรรณไม้นานาพันธุ์ ตัวบ้านพักเป็นบ้านดินแอบอิงธรรมชาติที่มีห้องแช่น้ำแร่ส่วนตัวแบบ open air  แต่หากอยากแช่น้ำร้อนแบบออนเซนในแบบเปิดโล่ง พร้อมสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่รายล้อม ก็มีสระน้ำพุร้อนภายนอกไว้ให้บริการ ที่อยู่ : 50 ม 8 ต บ้านสหกรณ์ ตำบล บ้านสหกรณ์ อำเภอ แม่ออน เชียงใหม่ 50130 2.ปายฮอทสปริงสปารีสอร์ท ตกแต่งสไตล์ตะวันออกร่วมสมัย ให้บริการห้องพักจำนวน 68 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ โทรทัศน์ มินิบาร์ อินเตอร์เน็ต ระเบียงห้องส่วนตัว อ่างแช่น้ำ เป็นต้น มีน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ เป็นไทยออนเซ็น ท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติเมืองปาย ที่อยู่ : 84-84/1 หมู่2 อาคาร หมู่บ้านแม่ฮี้ ถนนเชียงใหม่-ฝาง ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน 3.Onsen Health Spa & Hot Spring Resort เป็นที่พักที่ตกแต่งในรูปแบบของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นและบาหลีได้อย่างสวยงามลงตัว มีทั้งออนเซ็นส่วนตัว และออนเซ็นแบบรวม ( แยก ชาย หญิง ) อีกทั้งรีสอร์ทยังอยู่ใกล้น้ำพุร้อนสันกำแพง, น้ำพุร้อนรุ่งอรุณ, ถ้ำเมืองออน อีกด้วย เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนในวันสบายๆเป็นที่สุด ที่อยู่ : 54/1 หมู่6 ตำบลบ้านสหกรณ์ อำเภอแม่ออน เชียงใหม่ 4.Rock Valley Hot Spring and Fish Spa ริเวอร์แคววิลเลจ ถูกออกแบบให้เป็นเสมือนออนเซ็นเมืองไทย โดยตัวบ่อน้ำร้อนสร้างขึ้นจากหินและเพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นไทยลงไป โดยการใส่สมุนไพรไทยต่างๆ ลงไปในบ่อน้ำแร่ร้อนแต่ละบ่อ ซึ่งแต่ละบ่อจะมีอุณหภูมิระหว่าง 38-42 องศา อีกทั้งมีบริการห้องพักให้เลือก 4 สไตล์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะแก่การมาเที่ยวเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าเป็นที่สุด ที่อยู่ : 74/12 ถนนกาญจนบุรี-ไทรโยค ...
อ่านเพิ่มเติม

ถ้าพูดถึงหัวหินแล้ว เป็นสถานที่อีกสถานที่นึงที่คนนิยมกันเป็นอย่างมาก ติดกระแสสุดๆ แล้ววันนี้เราก็ได้มี สถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด แล้วถ้ายังไม่เคยไป คุณต้องลองไป มาดูรีวิวกันเลย หากเอ่ยชื่อของสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมือง หัวหิน...ผมเชื่อว่าใครหลายคนยังคงเลือกให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางในวันพักผ่อน ความคิดถึงที่หลายคนยังคงมุ่งหน้ามายัง “หัวหิน” มันอุดมไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่ในแต่ละห้วงเวลา ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป ก่อนหน้านี้ ผมเองยังคิดว่า "หัวหิน" คือเขตจังหวัดเพชรบุรี ก็คงเพราะขับรถไปเที่ยวชะอำแล้วพอมาอีกซักครู่มั้ง ครับเลยคิดเหมารวมว่านี่คือจังหวัดเดียวกัน 555 ผมเป็นคนนึงที่แอบสนิทสนมกับหัวหิน เพราะแต่ละปีนี่ไปหัวหินบ่อยมาก บ่อยจนเพื่อนหลายคนแซวว่า "นี่คือบ้านหลังที่ 2" ของผม วันนี้ทริปสุดประทับใจของผม จะพาไปตะลอนเที่ยวหัวหินอีกรูปแบบหนึ่ง เผื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ใครหลายคนในการไปเยือนหัวหินครั้งต่อไป หมู่บ้านศิลปิน : สถานที่รวมผลงานด้านศิลปะ ที่ผมอยากแนะนำให้คนที่ไปหัวหินได้แวะชมมากครับ ไอ้เราไม่ใช่นักเสพย์งานอาร์ตตัวยง แต่พอเดินดูผลงานของศิลปินไปเรื่อย อ้ายเฮ้ยมันก็เพลินอยู่นะเนี่ย ผมว่านะ ถ้าพาเด็กๆไปชมนี่เค้าคงได้อีกหนึ่งประสบการณ์ใหม่แน่เลย ร้านเรือริมธาร : กองทัพต้องเดินด้วยท้อง คำกล่าวนี้กี่ยุคกี่สมัยก็ยังใช้ได้อยู่ มื้อนี้ฝากท้องไว้กับร้าน อาหารแถวเขาตะเกียบ บอกเลยว่าฟินมาก ทางร้านมีหลายเมนูให้เลือกมากมาย ส่วนวันนี้ผมมีผู้ใหญ่ใจดีอย่างท่าน ผอ.อรสา  อาวุธคม  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ มาจัดหนักจัดเต็มให้ โอ๊ยยยย....มือนี้พุงกางมากครับ The Rock Hua Hin : ทริปนี้มาซุกหัวนอนที่โรงแรม The Rock Hun Hin เรามาหัวหินก็หลายครั้ง แต่นี่คือครั้งแรกเลยที่เพิ่งเคยมาพักที่นี่เป็นครั้งแรก ผมชอบความลงตัวของอะไรหลายๆอย่างที่นี่มาก โรงแรมติดทะเล บรรยากาศต่างๆ ของที่นี่มันเหมาะกับวันพักผ่อนในฝันเลยจริงๆ ที่สำคัญมีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ อยากได้ห้องแบบไหนก็ลองแวะเข้าไปดูในเว็บก็ได้  (therockhuahin.com) แต่ที่แน่ๆ ผมเลือกห้องที่ต้องบอกว่า น่าจะดีที่สุดของที่นี่ ซึ่งภาพที่อยู่ด้านล่างนี้ บอกทุกสิ่งอย่างว่ามันแจ่มแค่ไหนครับ จากนั้นตอนเย็นก็เดินเล่นริมหาดแบบชิวๆ หรือถ้าใครไม่อยากเล่นน้ำทะเล ที่นี่ก็มีสระว่ายน้ำที่มองเห็นวิวริมทะเลได้อย่างชัดเจน เรียกได้ว่าเลือกใช้ได้ตามสะดวกกันไปเลย สถานที่ตั้งของโรงแรม ก็อยู่ในจุดที่ดีเยี่ยม เพราะถ้ามาจากตัวเมือง หัวหิน มุ่งหน้าไปทางเขาตะเกียบ โรงแรมจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ มองหาป้ายส้มๆ ครับ ไม่ไกลจากตลาดซิเคด้าซักเท่าไหร่ Cicada Market : เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ที่นี่คงเป็นสถานที่เช็คอินของนักท่องเที่ยวหลายคนเมื่อไปเยือนหัวหิน มีสินค้ามากมายให้เราเลือกชม มีกิจกรรมทางด้านดนตรี เสพงานอาร์ต ...
อ่านเพิ่มเติม

วันนี้เรามี สถานที่สุดแหวก แหวกจริงๆไปกับ สุดยอด 5 ทะเลแหวกเมืองไทย เราไปจัดหนักจัดเต็มกันเลย 1.เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี ทะเลแหวกที่มีชื่อเสียงที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองไทย ณ เกาะนางยวน เพราะเนื่องจากที่นี่มีน้ำทะเลที่สวยสะอาดใส แล้วยังมีจุดชมวิวทะเลแหวก บนภูเขาสูงที่สามารถชมวิวของทะเลแหวกได้อย่างเต็มที่ นักท่องเทียวที่มาเที่ยวที่นี่จะได้เดินกลางทะเลบนสันทรายที่ทอดยาวเชื่อม 3 เกาะได้อย่างน่ามหัศจรรย์ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชื่อเสียงไปทั่วโลกนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศหลายๆคนล้วนยกให้ที่นี่ เป็น Dream Destination เลยทีเดียว นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียง อุดมไปด้วยเหล่าปะการังและสัตว์ใต้ทะเลมากมายที่ยังคงสมบูรณ์อยู่ 2..สันหลังมังกร จ.สตูล เป็นสันหาดทรายคล้ายทะเลแหวกกลางทะเล แต่มีความแตกต่างจากที่อื่นตรงที่แนวหาดที่เห็นนั้นไม่ใช่ทราย แต่เป็นเปลือกหอยนับล้านล้านตัวที่ถูกคลื่นซัดมาทับถมกันเป็นระยะทางยาวกว่า 4 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมเป็นทางยาวระหว่าง เกาะหัวมัน กับ เกาะสามในช่วงที่น้ำลด เราจะเห็นน้ำแยกออกจากกันทั้งสองฝั่ง พอเหมาะพอเจาะกับที่แสงแดดที่สาดส่องลงมาตรงกลาง มองเห็นเป็นเกร็ดที่แวววาว เหมือนมังกรกำลังเลื้อยตามแนวโค้งแหวกว่ายเล่นน้ำในทะเล  3.ทะเลแหวกหาดแม่หาด จ.พังงา หาดแม่หาดเป็นหาดเล็กๆในเกาะพะงัน ตั้งอยู่ปลายทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพะงัน ทอดยาวไปจนถึงเกาะม้า ซึ่งในช่วงน้ำลดจะเกิดสันทรายขึ้นเป็นทะเลแหวก สามารถเดินเชื่อมกันระหว่างเกาะได้ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามจริงๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีน้ำทะเลสีสวยสดใสไว้ให้เล่นน้ำได้ด้วย และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็นที่งดงาม 4.ทะเลแหวก 3 เกาะ จ.กระบี่ สถานที่เที่ยวชื่อดังระดับโลกที่เป็นที่นิยมของทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ที่ต่างพากันมายลโฉมความสวยงามของทะเลอันดามันไทย รวมถึงความมหัศจรรย์ของสันทรายสีขาวละเอียดในยามน้ำลด ที่โผล่ขึ้นมาเป็นทางเดินเชื่อมระหว่าง 3 เกาะ นั่นคือ เกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อนั่นเอง เกิดเป็นทัศนียภาพที่น่าอัศจรรย์ อย่างมาก ธรรมชาติสร้างสรรค์มาอย่างสวยงามจริงๆ   5.ทะเลแหวกบางชัน จ.จันทบุรี ทะเลแหวกจันท์ หรือ ทะเลแหวกบางชัน ที่เที่ยวสุดอันซีนแห่งภาคตะวันออก ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไร้แผ่นดินไปไม่ไกลนักโดยไฮไลท์ของทะเลแหวกจันท์จะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของสันทราย ที่โผล่เหนือน้ำทะเลขึ้นมาตามช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงซึ่งแนวสันทรายที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากการทับถมของเปลือกหอยและทรายที่มาทับถมกันนั้นเอง โดยมีความยาวประมาณ 700 เมตรทอดยาวไปกลางทะเล โดยที่นี่ยังมีความแปลกที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติอีกอย่างนั่นคือ หาดทรายที่มีสีดำ เป็นความ มหัศจรรย์ทางธรรมชาติจริงๆ ขอบคุณข้อมูลจาก travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

5 ที่เที่ยวสุดชิค ของเกาะสีชัง 1. จุดชมวิวช่องเขาขาด ช่องเขาขาดถือเป็นจุดชมวิวติดกระแสของเกาะสีชัง เพราะว่ามีวิวทัศนีภาพ ที่สวยงาม อยู่เป็นแนวหน้าผาริมทะเลา ทะเลที่นี่ก็สวย และใสสะอาดมากด้วยเช่นกัน ท้องฟ้าก็สดใส เข้ากันกับสีทะเลมาก อย่าลืมแวะกันมาที่นี่ล่ะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามทางเดิน ของจุดชมวิวไปจนถึงหน้าผาได้ เพื่อเก็บภาพบรรยากาศแบบ 360 องศา แค่นี้วันหยุดของคุณก็จะถูกเติมเต็มด้วยความสุขของวิวสวยจากธรรมชาติแล้ว 2.ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ สิ่งแรกเมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงเกาะสีชัง ควรจะเริ่มต้นการท่องเที่ยวด้วยการ ไปสักการะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่สิ่งศักสิทธิ์คู่เกาะสีชัง เพื่อให้เดินทางปลอดภัยและมีความสุขตลอดกาเดินทาง โดยสารเจ้าพ่อเขาใหญ่นั้นจะตั้งอยู่บนภูเขาสูง สามารถมองลงมาเห็นวิวทิวทัศน์ของทั้งเกาะสีชังได้เลยทีเดียว การเริ่มต้นเที่ยวในเกาะสีชังจึงควรเริ่มต้นจากจุดนี้เป็นจุดแรก 3.สะพานอัษฎางค์  ถ้าใครมาเกาะสีชังและไม่มาได้มาสะพาน อัษฎางค์ถือว่าคุณมาไม่ถึงเกาะสีชัง สะพานสะพาน อัษฎางค์นี้ตั้งอยู่ข้างหน้าของ พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นสะพานไม้สีขาวสะอาดที่ทอดยาวไปในทะเล ซึ่งน้ำทะเลบริเวณนี้ก็ใสสะอาดและมีสีสวยมากๆ เมื่อรวมกับภาพของสะพานไม้สีขาวแล้ว ที่นี่คือวิวที่สวยงามมาก เหมาะแก่การมาถ่ายรูปเล่นชิคๆ และนั่งชมวิวรับลมทะเลในบริเวณนี้ ใครมาเกาะสีชังต้องห้ามพลาด 4.พระจุฑาธุชราชฐาน พระจุฑาธุชราชฐาน อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเหตุการณ์วิกฤต ร.ศ.112 ก็สิ้นสุดการเป็นเขตพระราชฐาน แต่ที่นี่ยังเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ยังคงเอกลักษณ์ความงดงามและความคลาสสิคไว้ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ความสวยงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่ใช้สีสันสวยงาม รวมถึงสวนดอกไม้และต้นไม้ต่างๆรอบๆบริเวณพระราชวัง ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ ควรค่าแก่กาไปเยือนและถ่ายภาพกลับมาเป็นที่ระลึกอย่างยิ่ง 5.หาดถ้ำพัง ชายหาดยอดนิยมของเกาะสีชัง ที่มีหาดทรายขาวละเอียด รวมทั้งน้ำทะเลที่ใส สะอาดไม่มีขยะเนื่องจากมีมาตรการในการดูแลอย่างเข้มงวด ที่นี่จึงเป็นที่นิยมของชาวไทย และชาวต่างชาติ หากใครอยากจะตัวเปียกน้ำทะเลซักหน่อยต้องห้ามพลาดที่จะมาเล่นน้ำกันที่นี่ นอกจากนี้ที่ชายหาดยังมีเต๊นท์ผ้าใบไว้คอยบริการรวมถึงมีอาหาร และร้านขายของไว้คอยบริการมากมาย ขอบคุณข้อมูล travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

  ที่เที่ยวสามร้อยยอด  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สถานที่ท่องเที่ยวที่อุดมด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งถ้ำ ชายหาด และจุดชมวิวไว้เป็นที่เที่ยวพักผ่อนในวันหยุด ต้องขอขอบคุณ รีวิวจากเพจท่องเที่ยว LoveTripz สำหรับภาพสวยๆด้วยจร้าาาาา อย่าลืมไปกดติดตามกันด้วยล่ะ "สามร้อยยอด" หรือ "อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด" แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เมื่อเทียบกับปราณบุรีและหัวหิน อาจจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เยอะเท่าไรนัก จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากจะหามุมพักผ่อนสงบ ๆ ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่าที่สามร้อยยอดมีสถานที่ท่องเที่ยวครบครัน ทั้งชายหาด ถ้ำ จุดชมวิว ป่าชายเลน เกาะแก่ง รวมถึงที่พักทั้งแบบโรงแรมและโฮมสเตย์อยู่กินกับชาวบ้าน วันนี้เราเลยอยากแนะนำที่เที่ยวสามร้อยยอดมาฝาก เชื่อแน่ว่าใครหลายคนเห็นแล้วจะต้องอยากไปเที่ยวแน่นอน ไปจุดชมวิวที่อลังสุดๆที่ "อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด" สถานที่ตั้ง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ตั้งอยู่ที่ อ.กุยบุรี ในจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจาก อ.หัวหิน โดยประเมิณ 63 กิโลเตร พื้นที่โดยประมาณทั้งหมด ที่อยู่ 98 ตารางกิโลเมตร รวมไปด้วย ภูเขา หินปูนที่สลับซับซ้อนกัน และมีที่ราบน้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาพันธ์ุ อย่างลืมแวะมาเที่ยวกัน ที่นี่ ทุ่งสามร้อยยอด บึงบัว ขอบคุณข้อมูลจาก travel.sanook และ kapook.com ...
อ่านเพิ่มเติม

กำลังจะเข้าสู่ช่วงสงกรานต์ปีใหม่ไทยแล้วหลายๆครอบครัวคงกำลังหาที่ไปทำบุญต้อนรับปีใหม่ไทย วันนี้เราได้รวบสถานที่ทำบุญมาให้ทุกท่านนั่นคือวัดอันสวยงามทั้ง 5 แห่งที่ท่านจะได้ทั้งอิ่มบุญและอิ่มความสุขไปกับทัศนียภาพความสวยงามของวัดทั้ง 5 เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีของทุกครอบครัว กับ 5 วัดงาม ทำบุญเสริมโชคต้อนรับปีใหม่ 1.พระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ในเขต ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร วัดตั้งอยู่บนเนินสูง มีการจัดวางผังและส่วนประกอบของวัดสมบูรณ์แบบที่สุด มีสิ่งก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เป็นศาสนถานที่สำคัญและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวลำปาง ที่ชาวลำปางนับถือและมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก โดยไฮไลท์ของวัดพระธาตุลำปางหลวงก็คือการเข้าไปดูเงาสะท้อนขององค์พระธาตุลำปางหลวงกลับหัวอย่างน่าอัศจรรย์ 2.วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 50 ถนนรักษ์นรกิจ หมู่ 3 ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี พระบรมธาตุไชยาเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นหนึ่งในสามของ โบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้ สิ่งศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวใต้แบบนี้ใครจะเดินทางลงใต้ควรแวะมาสักการะสักครั้งเพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต 3.วัดป่าภูก้อน วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย กำเนิดขึ้นจากการดำริชอบของพุทธบริษัทสี่ ผู้ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งกำลังถูกทำลาย รายรอบวัดแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์และมีความเป็นธรรมชาติที่สงบเงียบสุดๆ อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามตระการตาภายในวัด ทำให้ที่นี่เป็นทั้งศาสนถานและที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมในด้านความงามอย่างมาก  4.วัดร่องขุ่น เป็นวัดพุทธ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ออกแบบและก่อสร้างโดย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน โดยอ.เฉลิมชัย คาดว่างานก่อสร้างวัดร่องขุ่นจะไม่เสร็จลงภายในช่วงชีวิตของตนแต่ก็สร้างจนเสร็จจนได้ วัดร่องขุ่นถอดแบบมาจากวัดมิ่งเมือง จังหวัดน่าน ถูกสร้างโดยปติมากรรมปูนปั้นสีขาวทั้งวัด ภายในรวบรวมศิลปะหลายแขนงไว้อย่างสวยงามตระการตา ถือเป็นอีกหนึ่ง อันซีนไทยแลนด์เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ของทางวัดที่รวบรวมงานศิลปะอันวิจิตรงดงามของ อ. เฉลิมชัยเอาไว้อย่างมากมาย ใครที่ชอบการทำบุญและรักการเสพงานศิลปะต้องไม่พลาด 5.วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว วัตถุประสงค์การสร้างเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปี และเป็นที่สืบพระศาสนา ให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทย เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ และคนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้ต่อไปบนยอดเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับประทานมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก และ บริเวณใต้ฐานพระเจดีย์จะใช้เป็นที่เก็บรวบรวมหลักธรรมคำสอน, ภาพปริศนาธรรม และเป็นที่เจริญสติภาวนา สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป นอกจากนี้บรรยากาศโดยรอบของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วนี้ ยังมีความสวยงามและอุดมไปด้วยธรรมชาติป่าไม้นานาพรรณอันสวยงามอีกด้วยเหมาะแก่การพักผ่อนและมาทำบุญกันเป็นครอบครัวจริงๆ ขอบคุณข้อมูลจาก ...
อ่านเพิ่มเติม

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.พังงา สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์เป็นพื้นที่กลางเมืองสามารถมองเห็น "เขาช้างหมอบ" สัญลักษณ์ของจังหวัด บริเวณสวนมีไม้ใหญ่เดิมซึ่งเป็นไม้ป่าขึ้นร่มรื่น มีการปลูกพรรณไม้ต่างๆเพื่อความสวยงามสบายตาและร่มรื่น รวมถึงสระน้ำทีเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 162 ไร่ ประกอบด้วยถ้ำต่างๆ เช่น ถ้ำลูกเสือ ลำธารน้ำไหล ถ้ำฤาษีสวรรค์ ถ้ำลอด ซึ่งที่นี่มี "Unseen" สิ่งที่แปลกตาและดูสวยงามกับธรรมชาติมากๆนั่นก็คือ ทางถ้ำลอด ทีเป็นวงเวียน มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง มีคนนิมยมมาถ่ายภาพ ปั่นจักรยาน เดินเล่น ที่คล้ายกับเดินชมถ้ำมีหินงอก หินย้อย ให้ได้ชมกัน สมกับคำว่า "เมืองในอ้อมกอดของขุนเขา" ทั้งแปลกตา สวยงาม และร่มรื่น ยังไงก็อย่าลืมลองแวะไปได้นะครับ สิ่งดึงดูดน่าสนใจในการท่องเที่ยวอีกเพียบเลย ขอบคุณข้อมูลจาก travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

นั่นก็คือ "สะพานคู่" ณ หาดแม่รำพึง จังหวัด ระยอง นั่นเอง ที่ภาพบรรยากาศทั้งทะเล แสงอาทิตย์ เสึยงคลื่นและชายหาดที่มีทรายขาวๆ ชุบชีวิตให้สะพานนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสะพานคู่แห่งนี้ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมของนักถ่ายภาพที่มาจับจองพื้นที่หาทิศทางดีๆในการถ่ายภาพงามๆสักหนึ่งใบ นอกจากถ่ายภาพแล้ว ยังสามารถเดินเล่นตามชายหาดชมบรรยากาศสวยๆกับสะพานคู่แห่งนี้ก็ได้ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกได้ด้วย แถมยังมีร้านค้าคอยให้บริการมากมาย  ทำให้ชายหาดนี้ไม่เคยหลับใหล และมีความครึกครื้นตลอดเวลาเลยทีเดียว แถมเรายังได้ชมกับ บ้านก้นอ่าว หมู่บ้านชาวประมง ได้เห็นวิถีชีวิตและการทำประมงของที่นี่ด้วยนั่นเอง สะพานคู่ ตั้งอยู่ที่ หาดแม่รำพึงที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าห่างจากตัวเมือง 11 กิโลเมตร และ บ้านเพ ประมาณ 8 กิโลเมตรเท่านั้นเอง อยากถ่ายรูปสวยๆแบบนี้อย่าลืมไปท่องเที่ยวกันนะครับ ช่วงนี้ยิ่งคึกคักกันเลยทีเดียว ...
อ่านเพิ่มเติม

 ชาวมุกดาหารและชาว สปป.ลาว ใช้เวลาวันหยุดพากันเล่นน้ำโขงคลายร้อนที่หาดมโนภิรมย์ หรือหาดชะโนด  แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหาร ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการขายอาหารวัน 2000ถึง3000 บาท ทำให้เงินสะพัด จำนวมาก เนื่องจากจังหวัดมีอากาศร้อน อุณหภูมิ 34 – 39 องศาเซลเซียส ตอนกลางวันมีอากาศร้อน ทำให้มีชาวบ้านทั้งไทย และชาว สปป.ลาว ไปเล่นน้ำเป็นจำนวนมาก ที่หาดมโนภิรมย์ "หาดมโนภิรมย์ หรือหาดชะโนด  " หรือหาดชะโนด ตั้งอยู่ที่บ้านชะโนด ตำบลชะโนด อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ห่างจากตัวจังหวัดมุกดาหาร 17 กิโลเมตร เป็นหาดทรายในแม่น้ำโขงซึ่งทอดยาวอยู่ใกล้กับวัดมโนภิรมย์ชาวบ้านจึงเรียกหาดทรายนี้ว่า หาดมโนภิรมย์ตามชื่อวัด หรือเรียกว่าหาดชะโนด ตามชื่อของหมู่บ้าน หาดมโนภิรมย์ทอดยาวจากทิศเหนือของบ้านชะโนด ไปบรรจบกับหาดพาลุกา ที่บ้านพาลุกา ในช่วงฤดูฝนแม่น้ำโขงมีระดับน้ำสูงจะไม่สามารถมองเห็นหาดทรายนี้ได้ เมื่อเข้าช่วงฤดูแล้งน้ำเริ่มลดลง จึงสามารถมองเห็นหาดทรายได้กว้างลงไปถึงกลางแม่น้ำโขง และมีความยาวหาดทรายจากทิศเหนือ-ทิศใต้ 1.5-2 กิโลเมตร หากยืนอยู่บนหาดมโนภิรมย์ เราจะสามารถมองเห็นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ได้อย่างชัดเจน เริ่มจากมีชาวบ้านที่ได้พาลูกหลานลงไปเล่นน้ำ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่พักผ่อนของคนใน ระแวกนี้ และใกล้เคียงที่เริ่มแวะมานั่งเล่น พักผ่อน เล่นน้ำกันมากขึ้น และในปัจจุบันจึงได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวคลายร้อนยอดฮิตของชาวมุกดาหาร บรรยากาศหาดมโนภิรมย์ หรือหาดชะโนด  มีชาวบ้านตั้งซุ้มไม้ไผ่ริมน้ำให้เป็นที่นั่งพักผ่อน และเล่นน้ำสำหรับลูกค้าและนักท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละร้านนั้นก็จะมีสัญลักษณ์เป็นธงสีของแต่ละร้านแสดงไว้ตามซุ้ม เพื่อง่ายต่อการจดจำ และยังมีห่วงยางให้เช่า มีเรือกล้วย (บานาน่าโบ๊ท) และมี ม้าบริการให้นักท่องเที่ยวได้ขี่รอบหาด และยังมีให้ใช้บริการ และเมนูอาหารส่วนใหญ่ของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ก็จะเป็นจำพวกอาหารพื้นบ้านเช่น เมนูปลาแม่น้ำโขง ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา ไก่อบฟาง ฯลฯ ราคาอาหารไม่แพง ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม วัน 2000 ถึง 3000บาท ขอบคุณข้อมูลจาก travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

ตั้งอยู่ที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี   อยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลอง ประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลอง แล้วจะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร วัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขามีพุทธลักษณะที่สวยงาม มาก และยังมีอุโบสถอัฏมุขเป็นลักษณะทรงไทยมีลวดลายสวยงามวิจิตรตระการตา ข้างๆ มีเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือใช้ลิฟท์ขึ้นไปชมวิวทะเลสาบและเขื่อนแม่ กลอง การเดินทาง วัดถ้ำเสือ อยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลองประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลองแล้วจะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร ขอบคุณข้อมูลจาก pateawthai.com kanchanaburi.co.th , unseentourthailand.com ...
อ่านเพิ่มเติม

ดอยผ้าห่มปก เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก  มีความสูง  2,285 เมตรซึ่งเป็นยอด ดอยที่สูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย  บนยอดดอยจะเห็นทิวทัศน์มีจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ยามเข้าและจุดชมวิว พระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ดอยผ้าห่มปกมีหมอกปกคลุมจัดและมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีและมีลมแรง อีกหนึ่งเสน่ห์ของ ดอยฟ้าห่มปก คือมีพืชพันธุ์และสัตว์ป่าหายากและที่น่าสนใจนานาชนิด อาทิ เทียนหาง บัวทอง ผีเสื้อไกเซอร์อิมพิเรียล ผีเสื้อมรกตผ้าห่มปก ผีเสื้อหางติ่งแววเลือน ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ นกปรอดหัวโขนก้นเหลือง และนกปีกแพรสีม่วง เป็นต้น การเดินทางขึ้นไปบนยอดดอยสูงสุดของดอยผ้าห่มปกต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ระยะจากจุดกางเต้นท์ระยะทาง 3.5 ก.ม.  ใช้เวลาเดินทางไปกลับ 3-4 ช.ม. เพราะฉะนั้นต้องฟิตร่างกายมาให้พร้อมเตรียมน้ำไปด้วย เส้นทางในช่วงแรกค่อนข้างชันและตลอดเส้นทางขึ้นๆลงๆ ตลอดแต่ชันน้อยกว่าช่วงแรก  สามารถติดต่อคนนำทางได้ที่ทำการอุทยานของลานกางเต้นท์กิ่วลม ค่าคนนำทางคนละ 300 บาท แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการพิชิตยอดดอย สามารถชมวิวและบรรยากาศบริเวณลานกางเต้นท์ได้ซึ่งมีทะเลหมอกให้เห็นแต่อาจมีต้นไม้ปกคลุมบ้างไม่สามารถเห็น ได้ชัดเจนเหมือนอยู่บนยอดดอย การเดินทาง:จากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่ - ฝาง) ถึงอำเภอฝางแล้วไปตามถนนฝาง - ม่อนปิ่น ประมาณ 3 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามถนน รพช. 4054 อีก ประมาณ 8 กิโลเมตร จะถึงบริเวณบ่อน้ำร้อนฝาง ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก รวมระยะทางจากเชียงใหม่ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จากเชียงใหม่-ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ประมาณ 160 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ขอบคุณข้อมูลจาก pateawthai.com และ paiduaykan.com ...
อ่านเพิ่มเติม

ก่อนหนีเที่ยวสงกรานต์ ชวนไปถ่ายรูปสวย ๆ กับดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ สวนจตุจักร 2560 ที่บานชมพูสะพรั่ง พร้อมให้ยลโฉมกันแล้ว วันนี้ถึงประมาณกลางเดือนเมษายน 2560 ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ สวนจตุจักร 2560 เป็นอีกหนึ่งสีสันความสวยงามประจำฤดูร้อนของคนกรุงเทพฯ ใครที่อยากจะไปถ่ายรูปกับดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ สีชมพูหวานแหวว แบบไม่ต้องไปไกล ก็สามารถมาเที่ยวชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ได้แล้ววันนี้ที่สวนจตุจักร และสวนรถไฟ กรุงเทพฯ       สำหรับใครที่รอคอยจะไปชมความสวยงามของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ สวนจตุจักร แอบมาส่งข่าวค่ะ ว่าตอนนี้ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานเต็มที่แล้ว และคาดว่าจะบานไปจนถึงประมาณก่อนช่วงสงกรานต์ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากฝนตกเยอะ ก็อาจจะร่วงโรยเร็วมากขึ้น โดยจุดที่มีดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ให้ชม จะอยู่บริเวณสวนจตุจักร ริมฝั่งถนนพหลโยธิน ใกล้กับทางเชื่อมบีทีเอสหมอชิต โซนนี้จะบานสะพรั่งแล้ว และคาดว่าจะบานไปจนถึงอาทิตย์หน้า และนอกจากนี้ก็ยังมีในโซนด้านในของสวนจตุจักร และสวนรถไฟให้ชมอีกด้วย ซึ่งทั้ง 2 โซน ก็มีบางต้นบานสะพรั่งแล้วเช่นกัน การเดินทางก็ง่ายมากเลยค่ะ สามารถที่จะนั่ง BTS มาลงที่สถานีหมอชิตได้เลย หรือจะมาทาง MRT มาลงที่สถานีจตุจักร ก็ได้เช่นกัน วันหยุดนี้ถ้าไม่มีแผนไปเที่ยวที่ไหน ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะมาเที่ยวที่นี่กันนะคะ นอกจากจะได้เที่ยวชมดอกไม้สวย ๆ และสูดอากาศสดชื่นภายในสวนจตุจักรและสวนรถไฟแล้ว ก็ยังสามารถเดินไปช็อปปิ้งได้ที่ตลาดนัดสวนจตุจักรด้วย มาที่เดียว ได้เที่ยวครบเลย 🙂 ขอบคุณข้อมูลจาก travel.kapook ...
อ่านเพิ่มเติม

ที่พักทับสะแกหลากหลายบรรยากาศและสไตล์ ให้คุณได้เลือกพักผ่อน ท่ามกลางธรรมชาติสวย ๆ ไว้เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวพักผ่อนสำหรับครอบครัว คนรัก และเพื่อนฝูง ได้ใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกัน ชายหาดทับสะแก ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นชายหาดที่เงียบสงบและค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว ทำให้เมื่อใดก็ตามที่นักท่องเที่ยวได้เลือกมาพักผ่อนที่นี่ รับรองเลยว่าคุณจะได้ตักตวงความสุข ความสนุก และความชิลกลับบ้านไปด้วยแน่นอน วันนี้เราเลยขอแนะนำที่พักทับสะแก มาฝากเพื่อน ๆ กัน เผื่อว่าจะได้จูงมือเพื่อน ครอบครัว และคนรัก ไปนอนเสพบรรยากาศความชิลกันที่นี่ บอกเลยว่าไม่มีผิดหวัง 1. Sunshine Paradise Resort ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sunshine Paradise ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sunshine Paradise ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sunshine Paradise ที่พักทับสะแกที่ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของแนวชายหาดสวย ๆ ความโดดเด่นของที่นี่อยู่ที่การออกแบบที่พักได้อย่างทันสมัยและลงตัวในทุก ๆ มุม ให้บริการห้องพักหลากหลาย ทั้งแบบเป็นหลัง ไปจนถึงห้องพักหรูหราที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวติดชายหาด พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน สำหรับผู้เข้าพัก ทางที่พักมีกิจกรรมทางน้ำให้ได้เล่นสนุก นั่นคือ การพายเรือคายัก ผู้เข้าพักสามารถพายได้แบบชิล ๆ เพราะคลื่นทะเลที่นี่ค่อนข้างนิ่ง หรือจะนอนทอดสายตาดูทะเลอันสงบที่ห้องพัก ก็ได้บรรยากาศความชิลไปอีกแบบ ที่อยู่ : 95 หมู่ 9 ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทรศัพท์ : 081 829 8123 เว็บไซต์ : เว็บไซต์ sunshineparadise-resort.com หรือ เฟซบุ๊ก Sunshine Paradise 2. Nishaville Resort & Spa ภาพจาก เฟซบุ๊ก NishaVille Resort & Spa ภาพจาก เฟซบุ๊ก NishaVille Resort & Spa ภาพจาก เฟซบุ๊ก NishaVille Resort ...
อ่านเพิ่มเติม

วันหยุดพักผ่อน การเดินทางเป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนหมายปอง วันนี้เราได้นำรีวิวของคุณ Thitiya Tiaodetwan ที่จะพาไปชมบรรยากาศ ชิวๆ สไตล์ง่ายๆที่กาญจนบุรี มีทั้งรีวิวสะพาญมอญ ที่พัก การนั่งรถไฟ วิวทิวทัศน์ รวมไปถึงอาหารบนรถไฟด้วยนะ เป็นการพักผ่อนและการเดินทางที่เรียบง่าย จะไปที่ไหนบ้างเราไปชมกัน ------------------------------------------------------------------------------------------------------ เริ่มต้นที่วินรถตู้แฮปปี้คนละ 120 บาท ถึงบขส. กาญจนบุรี รถออกเลย ไม่ต้องรอคนเต็ม มีกันอยู่ 2 คนรถก็ออก 55555 เกือบๆ 2 ชม.ก็มาถึงบขส. กาญนะจ๊ะ แล้วไปซื้อตั๋วต่อรถไปสังขละบุรี มีรถ 2 แบบให้เลือกคือวินรถตู้ของเอเชียไทรโยคคนละ 175 บาท กับ รถเมล์หวานเย็น หาตั๋วได้แล้วก็มาหาของหวานกินต่อ หลับๆ ตื่นๆ ไป 3 ชม. กว่าๆ เราก็มาถึง "สะพานมอญ" สะพานช่วงเย็นๆ คนยังเยอะ เราพักที่ "สามประสบรีสอร์ท" อยู่ติดกับตีนสะพาน สามารถเดินไปได้เลย วันที่สอง ตื่นเช้ามาใส่บาตรกัน ที่นี่จะมีของใส่บาตรขายกันหลายเจ้า บางเจ้าก็มีชุดมอญให้ใส่ฟรีด้วยนะ อย่าลืมทาแป้งทานาคาที่หน้าเป็นสัญลักษณ์ด้วยยย เราสามารถข้ามสะพานไปใส่บาตรที่ฝั่งนู้นได้นะ ตั้งของเรียงไว้รอพระมาบิณฑบาต ตามสองข้างทางจะมีร้ายขายของที่ระลึกให้เข้าไปดูกัน มีพร็อบเก๋ๆ มากมายแต่ที่ซื้อมาคือคุกกี้เมียนมาร์ เจ้าของใจดีให้ชิมด้วย เจอน้องแมวบนสะพาน วิวเช้าๆ ใครบอกว่าไม่มีหมอก ฟินนนน "สะพานแดง" อยู่ทางซ้ายของสะพานมอญสวยดีเหมือนกันนะ แล้วเราก็นั่งรถตู้ออกจากสังขละบุรี ย้อนกลับมาที่แก่งจอ เพื่อไปพักริมแพที่ "The for rest resort" บรรยากาศรอบที่พัก ที่นี่มีอาหารเช้าเเละเย็นบริการให้ แบบบุฟเฟ่ต์ กินไม่อั้น มีหมอกเบาๆ เปิดประตูห้องมาเจองี้ ราคาห้องพักรวมล่องแพด้วย มีจนท.คอยซัพพอร์ทให้เยอะมาก ปลอดภัยหายห่วง เรือลากแพ เตรียมโดดดดดด! ทางที่พักมีบริการรถตู้คนละ 150 บาท ไปส่งที่บขส.กาญจนฯ แต่มีแวะพักที่ไทรโยคน้อย 30 นาที เรากะว่าจะลองนั่งรถไฟฟรีกลับกทม. ลุงคนขับเลยพาไปส่งที่สถานีรถไฟให้ สีเขียว กับ สีฟ้า ถึงสถานีรถไฟแล้นนนน ...
อ่านเพิ่มเติม

1.แควธารา ริเวอร์ไซด์วิลล่า รีสอร์ทเปิดใหม่ล่าสุดริมแม่น้ำแคว ที่ถูกตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นทันสมัย นอกจากที่พักแบบแพแล้วยังมีที่พักบนฝั่งที่มีประตูเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำของทางรีสอร์ทด้วย เรียกได้ว่าอยากเล่นน้ำตรงไหนก็โดดลงได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำหรือแม่น้ำแคว เหมาะแก่การมาพักผ่อนเล่นน้ำให้เต็มที่ นอกจากนี้บรรยากาศภายในห้องพักยังตกแต่งได้หรูหราสวยงามอีกต่างหาก เหมาะกับวันหยุดพักผ่อนสุดพิเศษของทุกคนจริงๆ ที่ตั้ง: 214 หมู่6 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค กาญจนบุรี 71150 เว็บไซด์ทีพัก: http://www.kwaitara.com/ 2.เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท  เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท ที่พักสไตล์ Floatels เป็นรีสอร์ทลอยน้ำที่อยู่กลางสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง แม่น้ำสายประวัติศาสตร์อย่าง "แม่น้ำแคว" และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าไม้สีเขียวขจี นับได้ว่าเป็นสุดยอดบูติคลอยน้ำระดับหรูที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกท่ามกลางขุนเขา ห้องพักทุกหลังเป็นระดับวิลล่าที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สร้างจากไม้ทั้งหลัง มุงหลังคาด้วยหญ้าแฝกสไตล์ที่ตอบรับกับธรรมชาติ วันหยุดยาวมาถึงเมื่อไหร่ขอให้รีบเดินทางมาที่นี่ รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน ที่ตั้ง: 55 หมู่ 5 ตำบลวังกระแจ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี (GPS N 14.281035, E 99.000796) เว็บไซต์ที่พัก: www.thefloathouseriverkwai.com/th/ 3.เดอะ ริเวอร์ไลฟ์รีสอร์ท รีสอร์ท สไตล์โมเดิร์นที่ถูกออกแบบมาอย่างทันสมัย ผสมผสานกับความเป็นธรรมชาติของแม่น้ำแควได้อย่างลงตัว และยังมีบริการล่องแพไปชมน้ำตกไทรโยคอีกด้วย นอกจากจะเล่นน้ำที่แม่น้ำแควได้แล้วบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทยังจัดเต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เรียกได้ว่ารีสอร์ทนี้ถูกใจวัยรุ่นที่รักธรรมชาติแน่นอนแน่นอน ส่วนด้านอาหารการกินที่นีถือได้ว่าเป็นไฮไลท์เลยทีเดียว เพราะอาหาที่นี่อร่อยมาก ใครมาเข้าพักต้องห้ามพลาดที่จะชิมอาหารที่นี่ ที่ตั้ง: 23/5 ม.6 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เว็บไซด์ที่พัก: https://www.facebook.com/theriverliferesort.kanchanaburi/ 4. ริเวอร์แคว จังเกิ้ลราฟท์ ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำแควน้อย ล้อมรอบด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทั้งต้นไม้ใหญ่ แม่น้ำ และภูเขา โดดเด่นด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ใช้วัสดุธรรมชาติจากท้องถิ่นเป็นหลักในการก่อสร้าง คุณจึงสามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ แม้จะอยู่ในห้องพักที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแขกผู้เข้าพักทุกคนจะได้รับตะเกียงน้ำมันก๊าด สำหรับใช้ในเวลากลางคืน เนื่องจากที่รีสอร์ทไม่มีการใช้ไฟฟ้า และเราต้องการให้แขกผู้เข้าพักทุกท่านได้สัมผัสกับการพักผ่อนภายใต้ธรรมชาติอย่างเต็มที่ แม้จะดูเป็นการลำบาก แต่ทุกคนที่มาล้วนแต่พึงพอใจกับการใช้ชีวิตแบบนี้ เนื่องจากไม่สามารถหาได้จากที่อื่น เดินทางจากกรุงเทพถึงที่พักใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสไปกับอีกหนึ่งรูปแบบของการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ ที่ตั้ง: ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เว็บไซต์ที่พัก: www.riverkwaijunglerafts.com 5. เดอะ ฟอร์ เรสท์ รีสอร์ท  The For Rest ...
อ่านเพิ่มเติม

สวัสดีครับวันนี้จะพาทุกท่านไปชมกับจุดชมวิว ... แต่ว่าเป็นหอคอยนะครับผม หอยคอยบรรหาร-แจ่มใส ตั้งอยู่ในสวนเฉลิมภัทรราชินี ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองสุพรรณบุรีนั่นเอง และภายใน สวนเฉลิมภัทรราชินี ซึ่งเป็นสวนสาธารณะมีเนื้อที่ทั้งหมด 15 ไร่ นอกจากจะเป็นที่ตั้งของหอคอยบรรหาร-แจ่มใส แล้วสิ่งน่าสนใจอีกมากมายเช่นตึกแสดงผลงานของ ฯพณฯ สวนลายไทย สวนนกพิราบ สวนดอกไม้ บรรหารสวนน้ำพร้อมสไลเดอร์ ฯลฯ ที่เป็นสวนสาธารณะที่สมบูรณ์แบบเอามากๆ โดยมีหอคอยบรรหาร-แจ่มใส ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นจุดชมวิวของเมืองสุพรรณบุรี และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยและสูงที่สุดของประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางสวนเฉลิมภัทรราชินี เป็นสีขาวสูง ซึ่งเราจะได้พบเห็นกับ ความสวยงามของดอกไม้ คลอกับเสียงเพลง และน้ำพุที่พลัดกันเต้นระบำให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกัน รวมทั้งความสวยของตัวเมืองสุพรรณที่เราจะได้มองเห็นสุดลูกหูลูกตา ซึ่งด้านในจะมีจุดแวะพักชมวิวกันถึง 4 จุมชมวิว การมองเห็นแบบกว้าง พาโนรามากันเลย ว่างๆเชิญมาแวะเวียนท่องเที่ยวเมืองสุพรรณกันด้วยนะครับ สวยจริงๆครับอารมณ์เหมือนโซลทาวเวอร์ ขึ้นไปโรแมนติกไม่ต่างกันเลยทีเดียวเชียว เปิดให้เข้าชม วันอังคาร - อาทิตย์ หยุดวันจันทร์ (ยกเว้นวันนักขัตฤกษ์) ขอขอบคุณ ข้อมูล : ILoveSuphanburi , Chanu Plysasin , Natthaphong Chalermphun , ขจรศักดิ์ กลั่นสุภา  travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

วันนี้ จะพาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจ ที่มีเอกลักษณ์ ความสวยงามในตัวเอง ที่ไปแล้วได้ทั้งชื่นชมความสวยงาม จุดชมวิวสวยๆ และแถมยังได้บุญกุศลกลับบ้านอีกด้วย ที่ "วัดเขาซับพงโพด" อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ท่านจะได้พบกับพระพุทธรูปแกะสลักบนผาหินแดงที่สวยงามมากๆแห่งหนึ่งเลยทีเดียว รูปแกะสลักพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่มีความสวยงาม เป็นอย่างมาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก เพราะว่า อยู่ห่างไกลจากตัวชุมชน ซึ่งเป็นประติมากรรมการแกะสลักพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ไว้บนหน้าผา ที่ชาวบ้านเรียกว่า"ผาแดง"นั่นเอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ วัดเขาซับพงโพด จังหวัดนครราชสีมาที่ก่อตั้งมานานเมื่อปี พ.ศ. 2527 เนื่องจากวัดอยู่ไกลตัวชุมชนจึงมีการให้ช่างมาแกะสลักเพื่อสร้างสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาชื่นชมความสวยงาม และสักการะบูชาอีกด้วย ซึ่งเราจะได้พบเห็นประติมากรรมพระพุทธรูปที่สวยงามนี้ถึง 2 องค์ด้วยกัน มีพระพุทธรูปปรางค์สมาธิที่มีหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6 เมตร และพระพุทธรุปปรางค์ไสยาสน์ กว้าง 16 เมตร สูง 2.5 เมตร ทั้งนี้ยังมีจุดชมวิวด้านบนให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามได้อีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครราชสีมาอีกที่หนึ่งเลยทีเดียว ขอขอบคุณ ข้อมูล : วัดเขาซับพงโพด - ธ , Wachirawit Jenlohakit  travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

สำหรับหลายๆคนที่กำลังเบื่อๆกับกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน อยากลองหาอะไรสนุกๆในชีวิต วันนี้ได้รวบรวม 10 ที่เที่ยวในแนวแอดเวนเจอร์สุดมันส์ใประเทศไทยเรานี่เอง ให้คุณได้ลองไปเปลียนบรรยากาศ ไปเอาชนะตัวเอง และสนุกไปกับกิจกรรมทั้ง 10 แห่งนี้กันครับ 1.FLIGHT OF THE GIBBON จะเป็นอย่างไรเมื่อคุณต้องไปห้อยโหนอยู่กลางป่าใหญ่พร้อมกับสัตว์ป่ามากมายนานาพรรณ เราขอแนะนำให้คุณลองดูสักครั้งหนึงในชีวิต กับ Flight of the gibbon กิจกรรม Ziplining กลางป่าใหญ่บนดอยสูง คุณจะได้รับทั้งความตื่นเต้นและสนุกสนาน ไปตลอดระยะเวลาการเดินทาง พร้อมทั้งได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ที่ตั้ง: 302 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม จังหวัดเชียงใหม่ ติดต่อ: https://www.facebook.com/FlightOfTheGibbon/?fref=ts 2.FLOW HOUSE BANGKOK (โฟล์วเฮ้าส์แบงค็อก) ลานกีฬาที่รวมกีฬาเอ็กซ์ตรีมสุดมันส์ 4 ชนิด เอาไว้ด้วยกัน ได้แก่ Wakeboard ,Skateboard ,Surfboard และ Snowboard ความพิเศษของที่นี่คือ คุณจะได้พบกับคลื่นจำลองที่น้ำไหลด้วยความเร็ว 32 กม./ชม. และจำนวนน้ำมากถึง 30,000 แกลอน ใครที่อยากจะลองกิจกรรมโต้คลื่นนั้นไม่ต้องไปไกลถึงทะเลแล้ว เพราะที่นี่เค้าได้ยกคลื่นจลองมาไว้กลางกรุงเทพให้คุณได้สนุกสนานและตื่นเต้นไปกับกิจกรรมทั้งสี่แล้ว ที่ตั้ง: A-Square 120/1 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพ ติดต่อ: https://www.facebook.com/FlowHouseBangkok/?fref=ts 3.แก่งกระจาน แอดเวนเจอร์ พอยท์ รีสอร์ท ที่รีสอร์ทแห่งนี้นอกจากจะมีธรรมชาติป่าไม้และความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนแล้ว ยังแฝงไปด้วยความน่าตื่นเต้นและเร้าใจแบบสุดๆกับ กิจกรรมเครื่องเล่นแอดเวนเจอร์ ต่างๆมากมาย ได้แก่ ปืนหน้าผาจำลอง ,Water Zorb Ball ,ยิงปืนบีบีกัน ,ขี่จักรยานเสือภูเขา ,ฐานกิจกรรมผจญภัย และล่องแก่ง ซึ่งกิจกรรมล่องแก่งนี้จะแบ่งความสนุกออกเป็น 2 แบบ คือ ล่องแก่งเรือยาง คุณจะได้สัมผัสกความรู้สึกผ่อนคลายไปกับวิถีธรรมชาติ ตลอดความยาว 8 กิโลเมตร และล่องแก่งยางแรลลี่ ที่จะมาท้าทายความรู้ความสามารถในการคิดแก้ปัญหา เรียกว่าสนุกสนานมันส์ครบรส ที่ตั้ง: 41 หมู่ 6 ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน ...
อ่านเพิ่มเติม

สำหรับใครที่มีแพลนที่จะเดินทางไปเที่ยว ณ หาดชะอำ ชายหาดสุดฮิตของนักท่องเที่ยวและกำลังมองหาที่พักเพื่อเติมเต็มวันพักผ่อนสุดพิเศษของคุณอยู่ โรงแรม Asia Chaam Beach Hotel นี้เป็นอีกหนึ่งที่ ที่ สนุก ! ท่องเที่ยว ขอแนะนำในการพักผ่อน เนื่องจากแอดมินได้มีโอกาศไปเที่ยว ณ หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และได้เข้าพัก ณ เอเชียชะอำบีช แห่งนี้ ขอบอกเลยว่าสิ่งที่คุณต้องการสำหรับที่พักสักที่หนึ่งในวันหยุดสุดพิเศษของคุณนั้น ได้รวบรวมไว้หมดในโรงแรมแห่งนี้แล้ว เมื่อเดินเข้ามาสู่ล๊อบบี้ของโรงแรมพนักงานจะคอยบริการเสิร์ฟเวลคั่มดริ้งแก่ผู้เข้าพัก นั่งดืมเวลคั่มดริ้งไปเพลินๆพร้อมกับบรรยากาศของล๊อบบี้โรงแรมที่ตกแต่งอย่างสวยงาม โดยเราได้เข้าพักในห้องพักแบบพูลวิลล่า เป็นห้องพักที่สร้างเสริมขึ้นมาใหม่ สวยหรูหราริมสระน้ำ ที่มีประตูเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของทางโรงแรม ซึ่งเราสามารถเล่นน้ำหน้าที่พักของเราได้เลย ภายในห้องพักถูกตกแต่งด้วยสไตล์เรียบหรูเน้นโทนสีขาวตัดกับสีน้ำตาล มองด้านนอกเป็นสระน้ำพูลวิลล่า บรรยากาศดีเหมาะแก่การพักผ่อนเล่นน้ำมากๆ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่ดูแล้วเป็นระเบียบ สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องออกไปไหนเลย อีกหนึ่งไฮไลต์ของโรงแรมนี้อาคารเก่าชั้น 17 - 18 ซึ่งรัโนเวทมาใหม่ สวยงามอลังการ และหรูหรามากกว่าเดิม ที่ประกอบได้ด้วยสระว่ายน้ำด้านบนชั้น 17 ของโรงแรมที่ยื่นออกไปที่ระเบียงสามารถมองเห็นวิวของทะเลชะอำในด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นภูเขาที่บรรยากาศดีสุดๆ พร้อมลงเล่นน้ำในสระได้ตามอัธยาศัยบรรยากาศดีสุดๆในช่วงยามเย็น ในอนาคตข้างหน้าสามารถจัดปาร์ตี้เล็กๆริมสระน้ำได้ด้วยนะ และสำหรับคนที่รักสุขภาพที่โรงแรมแห่งนี้ก็มีฟิตเนสเซ็นเตอร์ไว้คอยบริการ มีอุปกรณ์การเล่นฟิตเนสที่ทันสมัยและได้มาตราฐาน นอกจากนี้ยังมีมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือไว้คอยบริการแขกที่เข้าพักด้วย ในช่วงเย็นเราฝากท้องไว้กับภัตราคารของทางโรงแรมซึ่งไม่ผิดหวังเลยจริงๆ อาหารดีมากมื้อนี้เป็น สเต็กกับต้มยำกุ้งของโปรด อร่อยมากแถมราคาก็ไม่ได้แพงจนเกินไปด้วยต้องห้ามพลาดจริงๆ กินอิ่มนอนหลับสบายอย่างแน่นอน ในตอนเช้าตรู่เราสามารถเดินออกจากโรงแรมไปชมวิวยามเช้าของชายหาดชะอำได้ใกล้ๆแค่เดินข้ามถนนเท่านั้นก็จะถึงหาดชะอำแล้ว บรรยากาศในตอนเช้าของหาดชะอำที่ไร้ผู้คนนั้นสวยงามมาก หลังจากเดินเล่นชมวิวชายหาดเสร็จแล้วเราจึงกลับมาที่โรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเช้า ซึ่งที่นี่บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ อาหารมีเยอะมาก และแต่ล่ะอย่างก็น่ากินสุดๆเลย หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเราก็ขึ้นไปพักผ่อนรอเวลาเช็คเอ้าท์ ก่อนเช็คเอ้าท์มีอาหารกลางวันจากทางโรงแรมมาลองทาน เพื่อนำมาพัฒนาต่อไป ซึ่งที่ได้ลองทานมี "พิซซ่า" ซึ่งพิซซ่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของโรงแรมเลยก็ว่าได้ มีทั้งหมด 3 หน้า ฮาวาเอี้ยน ซีฟู๊ด และเปปเปอร์โรนี เป็นแป้งบางกรอบ ราคาไม่แพงถือว่าถูกที่สุดในย่านนี้เลยก็ว่าได้ซึ่งรสชาติอร่อยถูกปากทั้งไทยและเทศเลยทีเดียว ส่วนอย่างที่สองเป็นเมนูที่แปลกตา มีชื่อว่า "คาโซเน่" หน้าตาเหมือนพาย โดยใช้แป้งพิซซ่าทำขึ้นมาเหมือนกัน รสชาติละม้ายคล้ายพิซซ่ามาก แต่ได้ใส่ที่ห่อด้านในอย่างเต็มๆคำ ซึ่งเครื่องด้านในจะเป็น สัปปะรด เห็ด แฮม มะเขือเทศ รวมกันอย่างกลมกล่อมเป็นรูปแบบพิซซ่าแบบใหม่อร่อยเลยทีเดียว ต้องบอกว่าแนะนำมากๆเลยสำหรับโรงแรมแห่งนี้ ที่จะทำให้วันแห่งการพักผ่อนของคุณมีความสุขมากขึ้นไปอีก ได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มกินอาหารอร่อยๆ และบรรยากาศดีๆคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ ขอบคุณข้อมูลจาก travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

สวัสดีครับวันนี้ จะมาแนะนำ เกาะแห่งหนึ่งในจังหวัด ระนอง ที่ขอบอกไว้ก่อนว่าสวยประทับใจมากๆ เปรียบดังสวรรค์แห่งอันดามันเหนือ ที่มีชายหาดที่เงียบสงบ น้ำทะเลไล่ระดับเฉดสีอย่างสวยงาม เหมือนกับเข้าไปอยู่ในฝันเลยทีเดียว เกาะค้างคาว จ.ระนอง ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแหลมสน ที่มีหมู่เกาะอยู่มากมาย วันนี้เราจะพาไปชมเกาะค้างคาว เกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงเกาะหนึ่ง ที่มาของชื่อเกาะนี้คือเกาะนี้เป็นที่อยู่ของค้างคาวแม่ไก่จำนวนมากนั่นเอง เป็นหาดที่ใกล้กับเกาะบางเบนสามารถเดินทางโดยการนั่งเรือไปประมาณ 40 นาที ห่างจากอุทยานประมาณ 9 กิโลเมตร ซึ่งพอถึงเราจะพบกับทรายหาดที่ขาวนุ่มอยู่ตรงหน้า พร้อมกับน้ำทะเลที่ใสสุดจะบรรยาย กิจกรรมที่นี่ก็สามารถเล่นน้ำ ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และอีกมากมายที่รอทุกท่านได้ไปสัมผัสท่องเที่ยวกัน สามารถติดต่อการเดินทางได้จาก อุทยานแห่งชาติแหลมสน และ รีสอร์ทที่พัก มีบริการท่องเที่ยวคอยให้บริการอยู่เช่นกัน ที่มา  travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

สวัสดีครับวันนี้ สนุก ! ท่องเที่ยวจะพาทุกท่านไปผจญภัยที่ ” ตาดหินยาว ” จ.ปราจีนบุรี กับรีวิวจากสมาชิกพันทิป คน ฟ้า ป่า น้ำ ที่พาท่านไปชมกับธรรมชาติที่สวยงาม การผจญภัยในป่าแสนสนุก เล่นน้ำตกสวยๆ ยังไงก็ฝากเข้าไปติดตามได้นะครับรีวิวดีๆอีกเพียบเลยทีเดียวงั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีความสนุก ความตื้นเต้นอย่างไรที่รอทุกท่านอยู่… —————————————————————————– รอเมื่อถึงวัน…หมดวสันตฤดู เพื่อเข้าสู่เหมันต์ ถือเป็นช่วงเวลาดี ที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตของสายฝนตามธรรมชาติ อืมมมมม…ไปเดินป่า ขึ้นดอย ตามหาดอกไม้งามๆ หรือจะ…บุกป่าหาน้ำตก เอาตูดไปแช่น้ำ ก็เพลินดีนะ ครั้งนี้เราเลือกไป…เอออออ ทั้งสองอย่างแหละ แต่ขอนำเสนอ เรื่องราวการเดินทางสู่ ต า ด หิ น ย า ว หนึ่งในมากมายหลาย น้ำตกขนาดกลาง ของจังหวัดปราจีนบุรี เริ่มละนะ…ออกจากกรุงเทพ ด้วยพาหนะส่วนตัว มุ่งหน้า อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ถึงประจันตคาม เดินทางต่ออีกนิด เพื่อจุดหมายปลายทางแรก หน่วยพิทักษ์อุทยานเขาใหญ่ ขญ. 10 ที่นี่ เรานัดเจ้าหน้าที่นำทางพร้อมลูกหาบไว้เรียบร้อย จากหน่วย ขญ. 10 เราต้องนั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ของทางอุทยานฯ ต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า เส้นทางก็ไม่เบาเลย มีลุยน้ำ ขึ้นเขา เข้าป่า ต้องคอยหลบกิ่งไม้สองข้างทาง  สาหัสสากรรจ์ ไปถึงแก้มก้นกันเลย หนุกหนานมากมาก  ตึงตัง ตึงตัง โครมคราม มาได้พักใหญ่ ก็ถึงเวลาเดินเท้ากันแล้ว แปะไว้ตรงนี้แปปก่อนนะ จะเล่าเรื่องราวในกาลครั้งโน้นให้ฟังนิดเดียว เมื่อหลายสิบปีก่อนหน้านี้ เราเคยมาที่นี่แล้วล่ะ รถยังไม่สามารถเข้ามาส่งถึงจุดเดินเท้าได้ ทำไงล่ะ เดินสิครับ เดินกันทั้งวันนะครับ ลูกหาบไม่มี มีเจ้าหน้าที่นำทางเท่านั้น ข้าวของเครื่งใช้ อาหารการกิน จัดกันเต็มหลัง เต็มไหล่ เสมือนไปเดินป่า ขึ้นดอย ตามหาอภิมหาน้ำตก ต า ด หิ น ย า ...
อ่านเพิ่มเติม

สันหนอกวัว  ที่เที่ยวกาญจนบุรี ไต่ระดับความสูง ชื่นชมธรรมชาติงดงามเกินคำบรรยาย ใครรู้ตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยวขาลุย งานนี้ฟิตร่างกายให้พร้อมแล้วไปลุยพร้อมกัน สันหนอกวัว หรือเขาสันหนอกวัว ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี และจัดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวปราบเซียนสำหรับนักท่องเที่ยวขาลุยทั้งหลาย เพราะจะต้องฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินไต่ระดับขึ้นสู่ยอดเขาตระหง่าน เช่นเดียวกับ คุณ D140 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เอาตัวไต่ระดับความสูง ขึ้นไปสัมผัสกับวิวบนยอดเขา ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามสุดสายตา ได้ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินแบบอลังการจนทำเอาติดตรึงใจไปอีกนานแสนนาน เชื่อว่าหลายคนเริ่มชักอยากเห็นบรรยากาศกันบ้างแล้ว รอช้าอยู่ทำไม…ตามไปดูด้วยกันเลย +++++++++++++++++++++++++ สันหนอกวัว ครั้งเดียวคงไม่พอ ก็ไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหนดี สุดท้ายก็ตกลงกันที่ “สันหนอกวัว” ไม่ใกล้ ไม่ไกลกรุงเทพฯ มากนัก จัดทริปสัก 3 วัน 2 คืน ก็คงดี มีสมาชิกกัน 9 คน ขาลุยทั้งนั้นเลย แถมนิสัยดี ๆ กันทุกคน ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่สรุปได้ว่าควรเริ่มออกเดินทางไม่ควรเกิน 10.00 น. เพราะว่าระยะทางไกลพอสมควร กลัวจะขึ้นไปถึงมืดแล้วจะอันตราย แต่เนื่องจากหน่วยป้อมปี่ซึ่งเป็นจุดขึ้นรถเพื่อไปส่งเรายังจุดเริ่มต้นเดินนั้นใกล้สังขละบุรีแค่ 30 กิโลเมตร พวกเราเลยไป slow life กันที่สังขละก่อน ทำให้เวลาเริ่มต้นเดินนั้นเลยเวลามาเป็น 11.30 น. กว่าจะขึ้นถึงก็จวนจะค่ำแล้ว กางเต็นท์ไป ทำกับข้าวไป ถ่ายภาพไป ทำ 3 อย่างในเวลาเดียวกัน ทำไปได้ ภาพไม่สวยก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย อุปกรณ์ถ่ายภาพทริปนี้ กล้อง DSLR 1 ตัว เลนส์ มุมกว้าง 1 เทเล 1 มาตรฐาน 1 ถือว่าครบช่วง ค่ำมาก็ล้อมวงกินข้าว เคล้าสุรานิดหน่อย รอแสงดาว ได้มาแค่นี้ ก่อนขึ้นมาถึงจุดกางเต็นท์มีฝนตกลงมานิดหน่อยพอให้เปียก เราเลยคิดว่าคืนนี้ถ้าฝนหยุดเราต้องเห็นดาวชัดแน่ ๆ ขออีกสักภาพกับทางช้างเผือกงาม ๆ ถ่ายภาพได้เป็นระยะ ๆ เพราะจะมีหมอกปลิวมาปกคลุมยอดเขา เช้าตื่นขึ้นมาตี 5 พี่เจ้าหน้าที่ใจดีอาสาพาเราขึ้นไปส่งที่ยอดเขาเพื่อให้เราได้ถ่ายภาพก่อน ภาพนี้ดวงดาวที่หน้าเต็นท์ครับ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ ...
อ่านเพิ่มเติม

ระนอง จังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เมืองในหุบเขา” มีน้ำตกสวยงามมากมาย หนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงคือ “น้ำตกสายรุ้งละอองดาว” น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกที่อุดมสมบูรณ์ แต่ขอบอกว่าการจะเข้าไปชื่นชมความงดงามของน้ำตกแห่งนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไรนัก วันนี้เราเลยอาสาพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับน้ำตกสายรุ้งละอองดาวให้มากขึ้น เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่พลาดชมความงามของน้ำตกแห่งนี้แม้แต่ตารางนิ้วเดียว ภาพจาก เฟซบุ๊ก TATChumphonRanong ●  พิกัดของน้ำตกสายรุ้งละอองดาว   น้ำตกสายรุ้งละอองดาว ตั้งอยู่ในตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง ว่ากันว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในภาคใต้ ชุ่มฉ่ำไปด้วยสีเขียวของต้นไม้นานาชนิด ●  การเตรียมตัวก่อนออกลุย เนื่องจากน้ำตกสายรุ้งละอองดาวมีพิกัดอยู่ในป่าลึก นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องนอนค้างคืนในป่า ดังนั้นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องเตรียมตัว นั่นคืออุปกรณ์เดินป่าที่จำเป็นทั้งหลาย เช่น ถุงเท้ากันทาก กระเป๋าเดินทางที่กันน้ำได้ รองเท้าเดินป่า เปลนอน เสื้อผ้า น้ำดื่ม อาหาร เป็นต้น (***อาหารควรเอาไปแต่ที่จำเป็นเท่านั้น เช่น มาม่า อาหารกระป๋อง เป็นต้น) ●  ลักษณะเส้นทางเดินป่า ระหว่างทางของการเดินทางไปยังน้ำตกสายรุ้งละอองดาว เป็นสภาพป่าดิบชื้น ต้นไม้สูงใหญ่ นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องผ่านลำธาร น้ำตก ขึ้นเขา ลงเขา ไม่ต้องห่วง…งานนี้มีเลอะและเปียกอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินค่อนข้างมาก และเพื่อความปลอดภัย นักท่องเที่ยวควรติดต่อแจ้งรายชื่อแก่เจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อย เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเลยกำหนดเวลาที่จะต้องออกมา เจ้าหน้าที่จะได้ประสานงานเข้าช่วยเหลือได้ทัน ภาพจาก เฟซบุ๊ก TATChumphonRanong ●  “น้ำตกสายรุ้งละอองดาว” ความงดงามแห่งม่านน้ำตก “ว้าว !…” น่าจะเป็นคำพูดแรก ๆ ที่คุณพูดเมื่อเดินทางมาถึงน้ำตกสายรุ้งละอองดาว นั่นเพราะความสวยงามของม่านน้ำตกขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหน้า เราจะเห็นนักท่องเที่ยวบ้างจับจองมุมถ่ายรูปสวย ๆ บ้างลงเล่นน้ำ ซึ่งมีสไลเดอร์ธรรมชาติอย่างก้อนหินให้เราได้เล่นกันจนฉ่ำปอด ส่วนใครที่ยังสงสัยกับที่มาของชื่อน้ำตก เราเฉลยให้ฟังก็ได้ว่า “น้ำตกสายรุ้งละอองดาว” มีที่มาจาก ทุกครั้งที่สายน้ำตกไหลลงมากระทบกับก้อนหินเป็นฝอย ๆ เมื่อโดนแสงแดด จะเกิดเป็นรุ้งกินน้ำที่สวยงาม หรือใครอยากจะลองเอาตัวไปแนบชิดกับน้ำตกใหญ่ ให้สายน้ำตกตกใส่หลัง ไม่นานก็จะเห็นเหมือนรุ้งกินน้ำ คล้ายกับว่าโอบล้อมตัวเราอยู่ ●  ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว ถ้าใครอยากชื่นชมความงดงามของน้ำตกสายรุ้งละอองดาวแบบเต็มที่ เราขอแนะนำว่าให้เที่ยวในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ว่ากันว่าเป็นช่วงที่น้ำตกมีความสวยงามมากที่สุด ถึงแม้ว่าน้ำตกแห่งนี้จะตั้งอยู่กลางป่าลึก เส้นทางทางป่าค่อนข้างลำบากนิดหน่อย แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรค แต่กลับเป็นสิ่งที่สร้างเสน่ห์ให้น้ำตกแห่งนี้ดูลึกลับและน่าค้นหา จึงทำให้ใครต่อใครต่างอยากที่จะเป็นผู้พิชิต “น้ำตกสายรุ้งละอองดาว” แห่งนี้ ใครสนใจอยากเดินทางไปเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ...
อ่านเพิ่มเติม

สถานที่ล่องแพสวย ๆ ในเมืองไทย เอาไว้เป็นที่พักผ่อน เล่นน้ำ และชื่นชมธรรมชาติแบบชิล ๆ ในเมืองไทยมีสถานที่ล่องแพ ที่ไหนสวย ๆ น่าสนใจบ้าง ตามมาดูกัน           ฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ มีใครมองหาที่เที่ยวหน้าร้อน อยู่บ้าง ? ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศไม่อยากอาบแดดที่ทะเล ลองมานั่งและนอนชิล ๆ กับกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างล่องแพก็ดีไม่น้อย เพราะคุณจะได้สัมผัสกับสายน้ำไหลเย็น และอาศัยสายน้ำเป็นสิ่งที่คอยพัดพาความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าออกไปด้วย วันนี้เราเลยมีสถานที่ล่องแพที่รายล้อมด้วยธรรมชาติสวย ๆ มาแนะนำ คราวนี้ถึงเวลาที่คุณได้ชาร์จแบตให้กับชีวิตไปพร้อมกับธรรมชาติแบบเต็ม ๆ 1. ล่องแพเขื่อนแม่งัด จังหวัดเชียงใหม่           ตั้งอยู่ที่ตำบลช่อแล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ในบริเวณอุทยานแห่งชาติศรีล้านนา เป็นเขื่อนดินที่สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่นี่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวให้ได้ทำมากมาย ซึ่งมีทั้งบริการเรือนแพที่พัก อาหาร เล่นน้ำ ตกปลา พายเรือคายัก ล่องเรือชมบรรยากาศภายในเขื่อน เดินชมป่า ถ้ำ น้ำตก (ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้นักท่องเที่ยวอาจจำเป็นต้องติดต่อไกด์ล่วงหน้า) ในส่วนของที่พักในบริเวณเขื่อนแม่งัดมีอยู่ด้วยกันหลายเจ้า ขึ้นอยู่กับงบประมาณในกระเป๋าสตางค์และความชอบส่วนบุคคล แต่ไม่ว่าจะราคาไหน ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องได้รับความสุขและความสนุก กลับบ้านไปเต็มกระเป๋า 2. ล่องแพเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี           ตั้งอยู่บริเวณบ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปแวะชมทัศนียภาพธรรมชาติที่งดงามบนสันเขื่อนได้ตลอดทั้งปี เพราะไม่ว่าจะเป็นเมฆหมอก สายน้ำ และวิวสวย ๆ มีให้เห็นตั้งแต่เหนือเขื่อนยันท้ายเขื่อน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถพักที่พักที่อยู่ริมอ่างเก็บน้ำ หลายแห่งทำเป็นบ้านพักแพลอยน้ำ บรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ บางแห่งมีเครื่องเล่นลอยน้ำต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน หรือจะพายเรือคายัก ล่องแพเปียก เพื่อชมพื้นที่ต่าง ๆ บริเวณเขื่อนกันแบบเต็มที่ 3. ล่องแพแก่งไฮ จังหวัดพิษณุโลก ภาพจาก เฟซบุ๊ก ล่องแพ แก่งไฮ ผู้ใหญ่ฮิปปี้           ตั้งอยู่ที่ริมอ่างเก็บน้ำห้วยซำรู้ หมู่บ้านแก่งไฮ ตำบลหนองกะท้าว อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ที่เกิดจากความร่วมมือกันของชาวบ้านเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อน ทานอาหาร พร้อมกับล่องแพสัมผัสบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ โดยแพที่ใช้ทำจากวัสดุพื้นบ้าน ภายในมีอุปกรณ์ความปลอดภัยเอาไว้เตรียมพร้อม ...
อ่านเพิ่มเติม

เชียงคาน เป็นเมืองเล็กๆในจังหวัดเลย ที่ปัจจุบันพัฒนาไปเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ฮิตมากในปัจจุบันน้อยคนนักที่ไม่รู้จัก เพราะว่าที่นี่ประกอบไปด้วยปัจจัยในหลายๆด้านทั้ง วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม วิวทิวทัศน์ และผู้คนที่เป็นมิตร ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งใหลเข้ามาเก็บบรรยากาศ ถ่ายภาพ ใช้ชีวิตฮิปๆในเชียงคานแห่งนี้ เชียงคานเป็นชุมชนริมฝั่งโขง สุดชายแดนจังหวัดเลยที่ผสานกับวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งโขงที่เรียบง่ายที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งหาดูยากในปัจจุบัน และได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวในอุดมคติของนักท่องเที่ยวอีกด้วย การมาเชียงคานนั้นมีกิจกรรมให้ทำมากมายแต่เสน่ห์แรกที่นี่คือ ประเพณีของชุมชนชาวเชียงคาน คือ ตักบาตรข้าวเหนียว ในยามเช้าใครที่มาเชียงคานต้องอย่าลืมร่วมสืบสานวัฒนธรรมและเรียนรู้การทำบุญนี้กันนะครับ บรรยากาศนักท่องเที่ยวเรียงรายยาว รอพระสงฆ์เดินบิณฑบาต เพื่อที่จะได้ทำบุญ ทำให้บรรยากาศที่นี่อบอวลด้วยบุญกุศลและความสวยงามของวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวจะได้กลับไปอย่างไม่รู้ลืม การเดินทอดน่องหรือปั่นจักรยานก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะทำให้เราได้สัมผัสซึมซับบรรยากาศที่นี่ได้อย่างดีเลยทีเดียว แถมยังอากาศบริสุทธิ์ไม่มีมลพิษอีกด้วยนะ การเดินช้อปปิ้งในถนนคนเดินตอนช่วงเย็นๆเพื่อลิ้มรสอาหารพื้นฐิน ชมวิวสถาปัตยกรรมตีกราบ้านช่อง และ เป็นการกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนนี้พัฒนาต่อไปอีกด้วย และที่แห่งนี้ยังมีโฮมสเตย์ในหลายแห่งที่จะพาทุกคนได้อยู่กินกับบรรยากาศอันสวยงามของชุมชนริมฝั่งโขงแห่งนี้อีกด้วยนะครับ แถมยังได้ซึมซับความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตของเชียงคานอย่างแท้จริง และอากาศที่เชียงคานในหน้าหนาวนั้นบอกคำเดียวครับฟินสุดๆกับหมอกยามเช้าผสมกับสายน้ำโขงที่สวยงามมากเลย และที่นี่เรายังได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามประกอบกันกับวิวแม่น้ำโขงอันกว้างขวาง ทำให้รู้สึกเต็มอิ่มกับการท่องเที่ยวนี้จริงๆ ยามดึกบรรยากาศดีๆ ยังมีร้านอาหาร ที่เหมาะกับการพาเพื่อนๆไปนั่งสังสรรค์ พูดคุย เปลี่ยนบรรยากาศกันได้อีกด้วยนะ นี่แหละครับเสน่ห์ของชุมชนเชียงคาน และนี่ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชุมชมแห่งนี้ ที่เสน่ห์ชุมชนไทยไม่ไปไม่รู้อยากให้ทุกท่านที่ได้มาลองสัมผัสเข้ามาท่องเที่ยวกันดูจริงๆ และอย่าลืมที่จะท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อที่จะอนุรักษ์เชียงคานของไทยเราให้อยู่คู่กับประเทศไทยอีกยาวนานนะครับ แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าจะเป็นอะไรติดตามกันนะครับผม ขอลาไปด้วยบรรยากาศเงียบๆ ยามดึกที่เชียงคานนะครับ สวัสดีครับ … ที่มา  travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

เขื่อนรัชชประภา เรื่องราวดี ๆ ที่น่ารู้ก่อนไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อการเตรียมตัวที่พร้อมและสนุกมากยิ่งขึ้น ใครวางแผนจะไปเที่ยวเขื่อนรัชชประภาไม่ควรพลาด เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ติดต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยเต็มไปด้วยธรรมชาติของป่าเขาและสายน้ำที่งดงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ แต่หลายคนก็อาจจะยังเริ่มไม่ถูกว่าถ้าจะไปเที่ยวที่นี่ควรเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามีข้อน่ารู้และเกร็ดท่องเที่ยวเขื่อนรัชชประภาเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกันค่ะ 1. เขื่อนรัชชประภา มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาสก 2. ที่ชาวบ้านเรียกที่นี่กันว่าเขาสก เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณอ่างเก็บน้ำและแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาสก 3. ด้วยความที่บริเวณอ่างเก็บน้ำในเขื่อนรัชชประภามีภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตาตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นมากมาย นักท่องเที่ยวจึงขนานนามว่าที่นี่คือกุ้ยหลินเมืองไทย 4. นอกจากนี้แล้วเสน่ห์ของเขื่อนรัชชประภา ยังอยู่ที่ธรรมชาติของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศเงียบสงบ อากาศเย็นสบายสดชื่นมาก อีกทั้งน้ำในเขื่อนยังสวยใส มีสีเขียวมรกต มองเห็นปลาต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน 5. การไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน ถ้าจะไปเที่ยวชมวิวสวย ๆ โดยไม่นอนค้างบนแพกลางน้ำก็ได้ค่ะ ก็จะมีจุดชมวิวอยู่บริเวณสันเขื่อน หรือบริเวณที่ทำการของเขื่อน หากใครอยากนั่งเรือชมวิวก็มีบริการเรือนำเที่ยวด้วยเช่นกัน 6. หากต้องการไปพักแพบ้านพักในเขื่อนรัชชประภา ที่พักส่วนใหญ่จะจัดเป็นแพ็กเกจให้กับลูกค้า เช่น 2 วัน 1 คืน รวมอาหาร 2 มื้อ, 3 วัน 1 คืน รวมอาหาร 5 มื้อ ฯลฯ บางที่พักก็มีแบบแยกจอง ใครอยากจองแต่ห้องพักก็ได้ ไม่รวมอาหาร สามารถสอบถามได้โดยตรงจากแพที่จะเข้าพักได้เลย 7. แพที่พักแต่ละแห่งจะต้องนั่งเรือออกไป เพราะฉะนั้นก่อนจองที่พักถามทางรีสอร์ทให้แน่ใจ ว่าราคาที่จ่ายไปนั้นได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง รวมค่าเรือด้วยไหม 8. แนะนำว่าถ้าใครไปช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว ให้จองเรือไว้ดีกว่าแต่ถ้าไปวันธรรมดาก็จะมีเรือไว้บริการพอเพียง ไม่ต้องจองไว้ก็ได้ 9. เรือหางยาวที่ให้บริการในเขื่อนรัชชประภา ส่วนใหญ่เป็นแบบเช่าเหมาลำ นั่งได้ประมาณ 8-10 คน ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท (ขึ้นอยู่กับว่าแพที่พักไกลมากน้อยแค่ไหน) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแพที่จะเข้าพัก หรือรุ่งโรจน์บริการเรือนำเที่ยวเขื่อนรัชชประภา โทรศัพท์ 08 7882 5011, ...
อ่านเพิ่มเติม

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ชวนครอบครัวหรือเกี่ยวก้อยคนรักเดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนที่ จ. พระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรม ชมบรรยากาศของเมืองเก่า ไหว้พระให้สุขใจก็เป็นโปรแกรมความสุขครบเครื่อง ที่ให้ทั้งความสุขตาและสุขใจในหนึ่งวัน วัดมหาธาตุ วัดนี้สร้างในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ต่อมาสมเด็จพระราเมศวรโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดเมื่อ พ.ศ. 1927 พระปรางค์วัดมหาธาตุถือเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะแรกของสมัยอยุธยาซึ่งได้รับอิทธิพลของปรางค์ขอมปนอยู่ วัดพระศรีสรรเพชญ์ สร้างในรัชสมัยของ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในราวปี พ.ศ.1991 โดยที่พระองค์ทรงเจียดพื้นที่ด้านหลังของพระบรมมหาราชวังให้เป็นวัดประจำวังหลวง ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการทำสังฆกรรม และ พระราชพิธีต่างๆ ได้โดยสะดวก วัดภูเขาทอง สมเด็จพระราเมศวร ทรงสร้าง เมื่อ พ.ศ. 1930เมื่อบุเรงนองยกมาตีกรุงศรีอยุธยาได้เมื่อ พ.ศ. 2112 นั้น ได้สร้างพระเจดีย์ภูเขาทองขึ้นไว้เป็นที่ระลึก ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ โปรดให้ซ่อมองค์พระเจดีย์ตอนบน เป็นแบบไทยพร้อม ๆ กันกับการบูรณะวัด วัดมเหยงคณ์ มเหยงคณ์นี้ แปลว่าภูเขาเนินดิน เป็นอารามหลวงที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (พระเจ้าสามพระยา) อันเป็นวัดที่สร้างถัดจาก วัดราชบูรณะ 14 ปี ในรัชสมัยเดียวกัน และวัดนี้นอกจากจะมีขนาดใหญ่โตกินบริเวณได้เท่ากับช้างล้อมรอบ 80 เชือกแล้ว หากแต่ยังมีโบสถ์อันโอ่งโถงที่จุพระสงฆ์ได้ราว 1,000 รูป วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ วัดนี้เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์(เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลายกับเจ้าฟ้าสังวาลย์ซึ่งต้องพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ วัดใหญ่ชัยมงคล เมื่อปี พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสริมพระเจดีย์ให้ ใหญ่และสูงขึ้นพร้อม ๆ กับการสร้างเจดีย์ยุทธหัตถีที่ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเฉลิมพระ เกียรติเมื่อคราวทรงชนะศึกยุทธหัตถี พระราชทานนามวัดใหม่ว่า”วัดชัยมงคล” ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหญ่ชัยมงคล วัดหน้าพระเมรุ วัดนี้เป็นวัดเพียงวัดเดียว ที่ไม่ถูกพม่าเผาทำลายอย่างย่อยยับ ดังที่ทำกับ วัดอื่นๆ ทั้งนี้เป็นเพราะ วัดนี้เป็นที่ตั้งทัพของ พระเจ้ากรุงหงสาวดี ที่ยึดเอาวัดนี้ เป็นที่มั่นเจาะเข้าไปยัง พระบรมมหาราชวัง ซึ่งตั้งอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งซึ่งครองเมืองอโยธยาเป็นผู้สร้างขึ้นตรงที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อยดอกหมาก และพระราชทานนามวัดว่า วัดพระเจ้าพระนางเชิง หรือ “วัดพระนางเชิง” วัดโลกยสุธาราม สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง มีพระพุทธไสยาสน์  มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร ...
อ่านเพิ่มเติม

1.บ้านสวนริมน้ำโฮมสเตย์ บ้านสวนริมน้ำโฮมสเตย์ บ้านพักที่อยู่ในสวนผลไม้ติดน้ำตก น้ำตกไหลผ่าน บรรยากาศที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ ลำธาร และขุนเขา อากาศสดชื่นเย็นสบาย ห้องพักมีหลากแบบให้เลือกพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างแท้จริง ที่อยู่ : 27/23 ม.หมู่ 8 ต.ฉมัน อ.มะขาม จ.จันทบุรี 22150 2. เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท ที่พักกาญจนบุรี เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท ที่พักสไตล์ Floatels เป็นรีสอร์ทลอยน้ำที่อยู่กลางสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง แม่น้ำสายประวัติศาสตร์อย่าง “แม่น้ำแคว” และอยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าไม้สีเขียวขจี นับได้ว่าเป็นสุดยอดบูติคลอยน้ำระดับหรูที่มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกท่ามกลางขุนเขา ที่ตั้ง : 55 หมู่ 5 ตำบลวังกระแจ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี (GPS N 14.281035, E 99.000796) 3.ณดล สตรีมไซด์ ไทย วิลล่า ณดล สตรีมไซด์ ไทย วิลล่ามีธารน้ำตก ที่ไหลเชื่อมระหว่างน้ำตกมวกเหล็ก สู่น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ กับสวนป่าเขตร้อนที่ยังคงเขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ บวกการตกแต่งของที่พักซึ่งผสมผสานระหว่างศิลปะ วัฒนธรรมตะวันออกอย่างลงตัว อีกหนึงไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด ที่ตั้ง : 191 หมู่ 1, ต. หมวกเหล็ก, อ. หมวกเหล็ก, สระบุรี 18180 4.ลอยละล่อง : Loy La Long Hotel หลายคนรู้จักที่พักนี้ผ่านหนังเรื่อง “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” จากนั้นมาที่นี่จึงได้รับความนิยม แล้วมีหลายคนที่อยากจะพักที่นี้กันเป็นอย่างมาก จนห้องพักเต็มเกือบตลอดทั้งปี เพราะห้องพักของที่นี้มีอยู่เพียง 7 ห้องเท่านั้น แต่เป็น 7 ห้องที่จะทำให้คุณประทับใจไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวิวแม่น้ำทิวทัศน์ ผ่านหน้าต่างบ้านไม้ 2 ชั้น อายุ 30 ปี ภายในวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร ลอยปริ่มเหนือเจ้าพระยา ใกล้พอที่คุณจะหย่อนขาให้ปลากรุงเทพฯตอดเล่น มันคงจะดีไม่น้อยที่ได้มาพักที่นี่สักครั้ง ที่ตั้ง ...
อ่านเพิ่มเติม

สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วกับเสน่ห์ชุมชนไทยไม่ไปไม่รู้ วันนี้เราจะพาไปชุมชนจากทางภาคเหนือ ที่มีจุดชมวิวที่สวยงามสามารถมองเห็นดาวตกได้ บวกกับธรรมชาติที่ดำรงอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม กับความเป็นอยู่ วิถีชีวิตที่คงเอกลักษณ์ บ้านจ่าโบ่ ตั้งอยู่ใน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นชุมชนหนึ่งของชาวเผ่ามูเซอร์ กลายเป็นสถานที่หนึ่งที่เป็นชุมชนท่องเที่ยวด้านเชิงนิเวศการอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่มีสภาพอากาศ ธรรมชาติ ที่สมบูรณ์มากๆที่หนึ่ง โดยการเดินทางมาจาก อำเภอปาย สู่หมู่บ้านจ่าโบ่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก่อนอื่นเลยเรามีจุดเด่นของที่นี่คือสามารถนั่งทานก๋วยเตี๋ยวรสชาติอร่อยไปพร้อมกับการชมวิวธรรมชาติแบบ 360 องศา และทุกท่านจะได้สัมผัสความเป็นอยู่ของ วิถีชีวิตชาวเผ่ามูเซอร์ เราจะได้พลิกชีวิตในการดำรงชีวิตแบบใหม่ อยู่กินกับธรรมชาติมากขึ้น เรียนรู้วัฒนธรรมของชาวชุมชนบ้านจ่าโบ่อีกด้วย อีกทั้งยังได้ลิ้มรสอาหารแปลกๆใหม่ๆเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวมูเซอร์ ณ ที่นี้ด้วย รวมไปถึงยังได้นอนพักผ่อนในบรรยากาศแบบชาวบ้านๆจริงๆโดยแทบจะไม่ปรุงแต่งเลย ความสะดวกสบายอาจจะมีน้อยกว่าที่พักดีๆ แต่รับรองว่าบรรยากาศและความอบอุ่นเป็นกันเองของชาวบ้านนั้นประทับใจมากจริงๆ และยังมีกิจกรรมให้เราท่านได้สัมผัสกับธรรมชาติ ชื่นชมความสวยงาม ในพื้นที่แห่งนี้ รวมทั้งที่นี่ยังมีจุดชมวิวที่เงียบสงบ มีดาวนับล้านดวงมาอยู่ตรงหน้า เป็นจุดชมวิวที่สวยงามจริงๆ อีกทั้งเรายังสามารถเห็น”ดาวตก”ได้จากที่นี่อีกด้วยนะ ซึ่งมองเห็นชัดเจน และ กลายเป็นจุดชมวิวทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และ ตกที่สวยงามที่หนึ่ง เป็นเสน่ห์อีกชุมชนหนึ่งที่ทำให้เราหยุดเวลาชีวิตไว้ได้ชั่วขณะและเสพบรรยากาศชมความงามของวิวเบื้องหน้าอย่างเต็มอิ่ม เป็นการเดินทางมาพักผ่อนที่คุ้มค่าจริงๆ เป็นสวรรค์บนดินที่วิเศษมากๆ ข้อคิดที่อยากฝากไว้คือ การไม่เข้าไปทำลายความเป็นอยู่เดิม เข้าไปช่วยกันอนุรักษ์รักษา ช่วยกันปกป้อง แลกเปลี่ยนความรู้ และอย่าทำให้บ้านจ่าโบ่ของเราศูนย์หายหรือโดนกลืนกินไปอีกที่หนึ่งเลย จะได้มีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ชุมชนดีๆ วัฒนธรรม ธรรมชาติสวยๆงามๆให้เราได้ชมกันอีกต่อๆไปทุกรุ่นเลยนะครับ “ขอบคุณครับ” ข้อมูล : cbtbaanjabo , travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

ที่พักที่ชวนนึกถึงชีวิตในฝันกลางท้องทุ่งนา และขุนเขา สายหมอก ที่กว้างขวางตามฉบับละครชาวไร่ชาวสวน บรรยากาศที่ดีมาพร้อมกับโอโซนที่มากเหลือ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้ไปสัมผัสถึง ที่พักแนวใหม่ที่ทำให้เรามีประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ โดยการแอบไปเป็นชาวไร่ ชาวนา สักคืนสองคืนก็ดีไม่ใช่น้อย เพราะว่าเราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศท้องนาที่สุดกว้างขวาง สามารถพักผ่อนกายใจ ชาร์ตแบตชีวิตทบทวนความคิดของตัวเองได้เป็นอย่างดี รวมถึงบรรยากาศสุดส่วนตัว เงียบสงบ ถ้าไปเป็นคู่ก็แสนจะโรแมนติก อยากจะฝากบั้นปลายชีวิตไว้กับไร่นาแบบนี้เลยทีเดียว รอบๆโฮมสเตย์สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ส่วนห้องพักนั้นตกแต่งมาเป็นอย่างดี สวยงามและเรียบง่าย พร้อมกับเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างครบครัน จุดชมวิวด้านบนที่พักสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มอิ่มเลยทีเดียว ที่กิจกรรมมากมายอีกด้วยเช่น ขับรถเอทีวี ปั่นจักรยาน ในการชมสวนชมไร่นาแห่งนี้ ถ่ายรูปสวยๆไปอวดเพื่อนๆได้ ได้ทานอาหารพื้นเมืองของที่นี่ที่ทางที่พักจัดให้ทานกันด้วย เอาเป็นว่าได้ทั้งบรรยากาศ วิถีชีวิตแบบใหม่ที่แปลก พักผ่อน อิ่มท้อง แหมครบครันเลยทีเดียว ข้อมูล : ตูบนาโฮมสเตย์ อ.ปัว จ.น่าน  , travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

วัสดีครับ  วันนี้เราจะพาไปชุมชนจากทางภาคใต้ เป็นชุมชนเล็กๆในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ทรัพยากรที่มีนั้นไม่ได้เล็กตามเลยทีเดียว พร้อมทั้งวิถีชีวิตที่เรียบง่ายที่จะพาทุกท่านไปสโลวไลฟ์กับธรรมชาติที่สวยงาม “ชุมชนลีเล็ด”  จ.สุราษฎร์ธานี ชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ได้ขนานนามว่า อเมซอนเมืองไทย เพราะว่าทรัพยากรธรรมชาติที่มากมาย ความเขียวขจีของป่าชายเลนที่มีพื้นที่กว่า 7,818 ไร่ ที่ทุกท่านจะได้สัมผัสกับการนั่งเรือศึกษาธรรมชาติไปตามทางน้ำคลองร้อยสาย (แม่น้ำ ลำคลอง ลำบาง ลำคู ลำร่อง) ที่ธรรมชาติรอต้อนรับทุกท่านได้เข้าชื่นชมและรับความบริสุทธิ์ของอากาศอีกด้วย รวมทั้งยังมีต้นไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นจาก แสมดำ โกงกาง รวมไปถึงต้นลำพูกว่าล้านต้นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทำให้เป็นพื้นที่ที่มีป่าล้ำทะเลและขยายพื้นที่ออกไปทุกปี นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติแล้ววิถีชุมชนที่นี่มีความน่าสนใจไม่ใช่น้อยซึ่งคนที่นี่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการผลิต ดัดแปลงทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายเช่น  ลูกจากที่เอามาทำแกงคั่วกะทิหรือลอยแก้ว ส่วนทางจากก็นำมาเย็บเพื่อนำไปมุงหลังคา หรือตัดเป็นเส้นๆ เพื่อห่อขนมจาก และยังสามารถเอามาสานตกแต่งสถานที่หรือออกแบบเป็นหมวกสานใบจากที่สวยงามได้อีกด้วย ส่วนพงจาก (หรือที่นี่เรียกว่า ปงจาก) เป็นส่วนรากที่มีความเหนียวของเส้นใยมากก็สามารถถูกแปรรูปไปทำเป็นกระดาษสาได้ หรือนำเอากุ้งที่ตกได้มาแปรรูปเป็นกะปิหรือน้ำปลาหวานกะปิที่หอมหวานแสนอร่อยซึ่งกลายเป็นของขึ้นชื่อของพื้นที่นี้  ซึ่งเราจะได้ซึมซับวิถีชีวิตและความรู้อย่างมากมาย รวมถึงคนที่นี่ยังมี่ความรู้ในศาสตร์การพยากรณ์อากาศได้อีกด้วยนะครับ ไฮไลท์สำคัญของ ณ ชุมชนแห่งนี้ คือ จำนวนหิ่งห้อยที่มากมายเพราะธรรมชาติที่สมบูรณ์ ทำให้มีจำนวนหิ่งห้อยกว่า นับแสนนับล้านตัว กลายเป็นแสงระยิบระยับทำให้เกิดความโรแมนติก และสวยงามดีต่อใจแน่นอน ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมให้ทำอย่างมากมายทำให้คุณมีความสุขไม่รู้เบื่อเลย เช่น การได้สัมผัสชีวิตของชุมชน ความเป็นมิตรของชาวบ้าน พร้อมเรียนรู้ภูมิปัญญาอันหลากหลายอย่างไม่มีกักเลยทีเดียว รวมถึงการแสดงของคนในชุมชนที่มีมาแสดงให้ท่านได้รับชมด้วย ไม่ว่าจะเป็นวงกลองยาวแบบฉบับดั้งเดิม หรือการรำสุพวารีนารีที่เล่าถึงชีวิตริมแม่น้ำลำคลองของคนพื้นถิ่น นั่งเรือชมป่าชาย­­­­­­­เลนอันสวยงาม สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งความรู้ที่อัดแน่นอย่างมากมายรอนักท่องเที่ยวทุกท่านให้ได้มาสัมผัส พร้อมกับรับประทานอาหารถิ่นที่รับรองว่าโดนใจ จับเองสดๆ ทำเอง ทานเองไม่อร่อยได้อย่างไรครับ รวมถึงยังมีกิจกรรมที่สร้างความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม  ซึ่งถือว่าดีเลยไม่น้อยสำหรับพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชนในการรู้รักษาสภาพแหล่งท่องเที่ยวให้คงอยู่ซึ่งที่นี่ยังมี การช่วยกันสร้างป้ายสื่อความหมายเตือนใจแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามา พร้อมกับการฝึกการสร้างวิทยากร นักสื่อความหมายและมัคคุเทศก์น้อยในการทำงาน ณ พื้นที่ชุมชนแห่งนี้อีกด้วย ยังไง สเน่ห์ชุมชนไทยไม่ไปไม่รู้ ขอฝากชุมชนลีเล็ดนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของนักท่องเทียวด้วยนะครับอย่าลืมไปท่องเที่ยวกัน และช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยนะครับเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมให้อยู่สืบไป โดยชุมชนลีเล็ดเป็น 1 ใน 10 ชุมชนท่องเที่ยวของโครงการ Village to the world ที่สนับสนุนให้องค์กรและบริษัทต่างๆ เข้าไปท่องเที่ยวในรูปแบบ CSR Outing ในชุมชนเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน เพียงแค่องค์กรของคุณพาพนักงานไปกินเที่ยวช้อปก็ได้ช่วยเหลือชุมชน ทำให้ชุมชนมีความสุขยิ่งขึ้นแล้ว หากองค์กรใดสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  Village to the world  ที่มา  travel.sanook ...
อ่านเพิ่มเติม

  เริ่มบานสะพรั่งแล้วกับดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ กําแพงแสน 2560 เตรียมไปถ่ายรูปเซลฟี่สวย ๆ กับบรรยากาศสีชมพู ตั้งแต่วันนี้ถึงกลางเดือนเมษายน 2560 จากที่ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาไปบางส่วน คราวนี้ก็ได้เวลาจัดเต็มของฤดูกาลดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ กำแพงแสน 2560 ที่จะบานสะพรั่งแล้วค่ะ โดยล่าสุด (วันที่ 6 เมษายน 2560) ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ บริเวณถนนวัฒนาเสถียรสวัสดิ์ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ก็ได้เริ่มทยอยเบ่งบานให้ชมกันแล้ว และคาดว่าจะบานเต็มที่ในช่วงวันที่ 8-10 เมษายนนี้ ภาพจาก เฟซบุ๊ก KU KPS Society           อุโมงค์ชมพูพันธุ์ทิพย์ แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เป็นเส้นทางดอกไม้ยอดนิยมและห้ามพลาดเส้นทางหนึ่งในช่วงฤดูร้อน มีลักษณะเป็นถนนทอดยาวที่มีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์กว่า 200 ต้น เรียงรายอยู่ทั้งสองฟากฝั่งถนนวัฒนาเสถียรสวัสดิ์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ภาพจาก คุณ Som DS ภาพจาก คุณ Som DS  ภาพจาก คุณ Som DS  ภาพจาก คุณ Som DS ภาพจาก คุณ Som DS ภาพจาก คุณ Som DS ในปี 2560 นี้ เทศกาลชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5-11 เมษายน 2560 โดยดอกไม้จะค่อย ๆ ทยอยบาน คาดว่าจะบานสะพรั่งพร้อมเพรียงกัน ในช่วงระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน (ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากฝนตกดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ก็จะโรยไวมากขึ้น) และจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในช่วงเดือนนี้ อาจทำให้ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ไม่บานสวยงามเท่ากับปีที่ผ่านมา ภาพจาก คุณ Som DS  ภาพจาก คุณ Som DS ภาพจาก ...
อ่านเพิ่มเติม

เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนเต็มพิกัดอย่างเดือนเมษายนแล้ว หลายๆคนคงเตรียมตัวพักผ่อนในวันหยุดยาววันสงกรานต์วันนี้ Sanook Travel ขอแนะนำ 10 ที่พักสุดฟิน ที่มีสวนน้ำและเครื่องเล่นสไลเดอร์แบบจัดเต็มไว้คลายร้อนและเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ด้วย แปลก แหวกแนวสุดๆ ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง 1.The Resort at Suanphueng เดอะ รีสอร์ท สวนผึ้ง รีสอร์ทในฝันของใครหลายๆ คน บรรยากาศสดชื่นไปด้วยสนามหญ้าสีเขียว รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ สไตล์การตกแต่งออกแนวโมเดิร์น บ้านพักแต่ละหลังจะอยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตร ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว สวนน้ำที่ The Resort at Suanphueng ตั้งอยู่ท่ามกลางเขาตะนาวศรีที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ ช่วงเวลา 10.00-18.00 น. ค่าบัตรผ่านเข้าสวนน้ำ เด็ก 60 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท เบอร์โทรศัพท์ The Resort at Suanphueng : 0817639336 ที่อยู่ : 546 หมู่8 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี 2.Springfield Village Golf & Spa Cha-am สปริงฟีลด์วิลเลจแอนด์กอล์ฟสปา ที่พักตกแต่งทุกพื้นที่สไตล์ทรอปิคัล ให้บริการห้องพักกว่า 86 ห้อง โดยแยกเป็นสัดส่วนเพื่อให้เงียบสงบและเป็นส่วนตัว เหมาะกับวันพักผ่อนสบายๆ แถมยังมีสวนน้ำสไตล์ ทรอปิคัลที่น่าเล่นสุดๆ ไปใช้วันหยุดของคุณกับสระว่ายน้ำเจ๋งๆแบบนี้ก็สนุกและผ่อนคลายไปอีกแบบจริงๆ เบอร์โทรศัพท์ Springfield Village Golf & Spa ชะอำ : 022312244 , 032709222 , 032709223 ที่อยู่ : 193 หมู่6 ถนนพุหวาย ตำบลห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ เพชรบุรี 3. Mercure Pattaya Ocean Resort ...
อ่านเพิ่มเติม

อากาศร้อนขึ้นทุกวัน อยากไปเล่นน้ำ นั่งชิวกับสายลม และไปทะเล เชื่อว่าหลายคนแพลนเป้าหมายไว้ที่ทะเลแน่นอน วันนี้แอดมิน สนุก ! ท่องเที่ยว ได้นำรีวิวจากพันทิบ พลังแห่งจันทรา จงแปลงกายา ที่เดินทางไปแค่เกาะล้าน ไม่ไกลจากกรุงเทพ พักผ่อนง่ายๆ เที่ยวง่ายๆแบบนี้ได้ทุกเวลาเลยทีเดียว ——————————————————————————————————————————– คำเตือน กระทู้นี้รูปเยอะมากกกกก!  *ขออนุญาตใช้ภาษาวิบัติบ้างบางคำ เพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านนะคะ ^^ สวัสดีค่าา เนื่องจากวันหยุดเทอมอันยาวนาน เด็กมหา’ลัยอย่างเราๆ จึงขอออกไปเที่ยวชิวๆ บ้างไรบ้างนิดนุงงง แล้วก็ตกลงกันไปที่นี่แหละ! “เกาะล้าน” …อ๊านน อ๊านน อ๊านนน (จะเอ็คโค่ทำไม!) เลยอยากเอามาแชร์ให้โลกรู้! ประสบการณ์ไปเกาะครั้งแรกของเราจะเป็นยังไง ติดตามชมกันเลยยยย (มีสรุปค่าใช้จ่ายให้ท้ายสุดด้วยค่ะ) บอกก่อนว่า ทริปนี้เป็นทริปเกาะครั้งแรก เป็นการเดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยครั้งแรก จึงมีการวางแผนกันนานมาก เป็นเดือนๆ เลยทีเดียว (แต่ไปแค่คืนเดียวเนี่ยนะ!) หาที่พัก หาถนนหนทาง ข้อมูลเเน่นยิ่งกว่าพุง!! และพอตกลงจองที่พักอะไรกันเรียบร้อย ก็เหลือแค่รอเวลาออกเดินทางเท่านั้น ก่อนวันเดินทาง 1 วัน นี่ก็เริ่มมากังวลละว่าแบบ นี่มันหน้าฝนนะแก๊! ไปทะเล ไปเกาะงี้จะดีหรอ? แต่ก็นะ.. ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ภาวนาให้ฝนไม่ตก T_T วันเดินทางวันแรก อากาศแจ่มใสมากเอ๊าะ! ไม่มีฝนสักเม็ดเรากับเพื่อนๆ นัดกันที่ท่ารถอนุสาวรีย์ (ท่ารถข้างเซนจูรี่) เวลา 8 โมง แต่เลทไปเกือบ 9 โมง 55555 พอมากันครบแล้วก็ซื้อตั๋วไปเกาะล้านกัน รอสักครู่ก็มีพี่คนขับเรียกขึ้นรถ สาย กรุงเทพฯ – พัทยา นั่งๆ นอนๆ กันไปประมาน 2 ชม. เศษ เราก็มาถึงเมืองพัทยากันแล้ว! เย้~ จุดแลนด์มาร์คที่มาแล้วต้องถ่ายรูป ตอนแรกคิดว่าไปวันธรรมดาคนคงไม่เยอะ ที่ไหนได้ คนเยอะมากกกกก! ชาวต่างชาติเดินกันทั่วเลย พอเดินไปถึงท่าเรือ เราก็เดินๆ ตามนักท่องเที่ยวไปขึ้นเรือพาไปเกาะ //รีบขึ้นเรือ ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย แง้ ถ่ายแต่สะพานมาแทน นั่งเรือกัน โคลงเคลงๆ ...
อ่านเพิ่มเติม

ชวนเที่ยวแบบชิล ๆ กับการล่องเรือคลองเขาแดง ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชมวิวสวย ๆ ของภูเขาน้อยใหญ่ และป่าชายเลนสีเขียวขจี เป็นที่เที่ยววันหยุดดี ๆ ที่น่าไปสัมผัสอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวไทยที่มีความสวยงามและมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนมากมาย ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือ การล่องเรือคลองเขาแดง ซึ่งเป็นลำคลองที่สำคัญของชาวบ้านในตำบลเขาแดง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากคลองแห่งนี้จะเป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชาวบ้านในพื้นที่แล้ว ก็ยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของประจวบคีรีขันธ์อีกด้วย คลองเขาแดง เป็นลำคลองที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดแล้วเชื่อมต่อไปยังอ่าวไทย ซึ่งสองฟากฝั่งของลำคลองแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูเขารูปร่างสวยงามแปลกตาภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดได้อย่างชัดเจน จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “กุ้ยหลินแห่งประจวบคีรีขันธ์” ไม่เพียงเท่านั้นนักท่องเที่ยวยังจะได้ชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนสีเขียวขจี พร้อมชมวิถีชีวิตชุมชนชาวประมงริมคลองเขาแดงอันเรียบง่าย ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายและสดชื่นบริสุทธิ์ เป็นทริปท่องเที่ยวชิล ๆ ที่เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุด การล่องเรือคลองเขาแดงสามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00-18.00 น. โดยช่วงเวลาที่สวยที่สุดจะอยู่ในช่วงเย็น เพราะจะสามารถชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม และการล่องเรือจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางทั้งหมดประมาณ 4-5 กิโลเมตร ค่าเช่าเหมาเรือนำเที่ยวลำละ 500 บาท / 6-8 คน โดยจะมีค่าธรรมเนียมค่าเข้าอุทยานฯ ด้วย คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท จุดขึ้นเรือนำเที่ยวคลองเขาแดง จะอยู่บริเวณวัดเขาแดง ตำบลเขาแดง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ได้ไปเที่ยวชม อาทิ จุดชมวิวเขาแดง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินขึ้นเขาไปได้ประมาณ 400 เมตร เพื่อไปชมวิวอันสวยงามของท้องทะเลไกลสุดลลุกหูลูกตา และวิวภูเขาน้อยใหญ่ ไร่นาของข้าวชาวบ้านที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง หรือจะไปเที่ยวหาดสามพระยา ชายหาดอันเงียบสงบ ที่ทอดยาวขนานไปกับท้องทะเลอันสวยงามก็ได้เช่นกัน รวมทั้งยังสามารถไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ภายในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดได้อีกด้วย การเดินทางจากตัวเมืองกุยบุรี ให้ใช้เส้นทางหลวงชนบทสาย ปข.1026 มุ่งหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด แล้วขับเลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดตามเส้นทางหลวงชนบท ปข. 4020 ไปเรื่อย ๆ ...
อ่านเพิ่มเติม